พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้สั่งการให้ติดตามเรื่องราคาสินค้าที่มีบางรายการปรับขึ้นราคานอกกรอบจากที่ควบคุมอยู่ หรือสินค้าบางรายการขึ้นราคาแล้วสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยตอนนี้มีการประกาศสินค้าควบคุมแล้วกว่า 200 รายการ ขณะเดียวกัน มีสินค้าบางรายการที่รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศให้มีการควบคุมราคา แต่ปรับขึ้นราคาล่วงหน้าก่อน ซึ่งบางครั้งก็เกินไป เพราะมันยังไม่ใช่เวลา อาจเพราะที่ผ่านมามีสินค้าบางรายการที่ราคาตก ตอนนี้จึงมาปรับราคาเพื่อหากำไรชดเชย แต่อยากขอให้ทุกคนช่วยกัน เพราะเวลานี้มีความเดือดร้อนด้วยกันทุกคนทั้งเศรษฐกิจระดับบน เศรษฐกิจระดับกลาง และเศรษฐกิจระดับล่าง ซึ่งตนเข้าใจและจะพยายามบริหารงานทุกอย่างให้ดีที่สุด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันเดียวกัน ยังอนุมัติงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดำเนิน “โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG and Regional Development) ใน 7,435 ตำบล ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ วงเงินรวม 3,566.28 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการเกิดการจ้างงานประชาชนทั่วไปและบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 5 ปี จำนวนไม่น้อยกว่า 68,350 คน เศรษฐกิจในพื้นที่หมุนเวียนระหว่างดำเนินโครงการไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาทต่อเดือน
ครม.ยังอนุมัติ วงเงิน 338.80 ล้านบาทให้กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จำนวน 6 โครงการ เพื่อจัดทำแผนรองรับและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต
1.โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล
2.โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จ.ตรัง
3.โครงการ Phuket Health Sandbox จ.ภูเก็ต แพลตฟอร์มออนไลน์บริการด้านสุขภาพ และ Digital Health Post เพื่อเป็นจุดสำหรับตรวจสุขภาพเบื้องต้นและพบหมอทางออนไลน์
4.โครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา
5.โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร-ท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด และ
6.โครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จ.กระบี่.