เครือสหพัฒน์ ขอพาณิชย์ขึ้นราคามาม่า ผงซักฟอก หลังต้นทุนการผลิตพุ่งสูง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เครือสหพัฒน์ ขอพาณิชย์ขึ้นราคามาม่า ผงซักฟอก หลังต้นทุนการผลิตพุ่งสูง

Date Time: 10 มิ.ย. 2565 08:55 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • เครือสหพัฒน์ ขอกระทรวงพาณิชย์ขึ้นราคา มาม่า ผงซักฟอก หลังต้นทุนการผลิตพุ่งสูงโดยเฉพาะราคาข้าวสาลี น้ำมันปาล์ม และน้ำมันเชื้อเพลิง

Latest


เครือสหพัฒน์ ขอกระทรวงพาณิชย์ขึ้นราคา มาม่า ผงซักฟอก หลังต้นทุนการผลิตพุ่งสูงโดยเฉพาะราคาข้าวสาลี น้ำมันปาล์ม และน้ำมันเชื้อเพลิง

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันราคาต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหลายชนิดปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะราคาข้าวสาลี น้ำมันปาล์ม และน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ราคาพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท คือ มาม่า เป็นอย่างมาก ซึ่งเราแบกรับภาระต้นทุนดังกล่าวมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมภายใต้การกำกับของกระทรวงพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุญาตการปรับขึ้นราคาขายสินค้าบางรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น โดยเริ่มจากมาม่า ที่จะมีการขออนุญาตการปรับเพิ่มราคาขายขึ้น เพราะบริษัทได้มีการแบกรับภาระต้นทุนมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

ทั้งนี้ ในตลาดต่างประเทศราคาขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรับเพิ่มขึ้นไปตามต้นทุนวัตถุดิบแล้วเช่นเดียวกัน ส่วนสินค้าถัดไปคาดว่าจะขอปรับขึ้นราคาก็คือ ผงซักฟอก ส่วนสินค้าอื่นๆ จะต้องพิจารณาความเหมาะสมในเรื่องต้นทุนต่อไป

"การขึ้นราคาสินค้าต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภค อาจจะต้องใช้การขึ้นราคาแบบขั้นบันได เพราะตอนนี้วัตถุดิบขึ้น ทุกอย่างขึ้นราคา ถ้าไม่ขึ้นราคาเราก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งหากไม่ขึ้นราคาผู้ผลิตอาจจะต้องลดกำลังการผลิต หรือชะลอการผลิต อาจจะทำให้เกิดการกักตุนสินค้า การขึ้นราคาไม่ใช่เรื่องที่แย่ทั้งหมด แต่ต้องขึ้นแบบค่อยเป็นขึ้นไป"

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การปรับขึ้นค่าแรง ถือเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน หลังจากค่าครองชีพเพิ่มขึ้นไปแล้ว จากราคาขายสินค้าขึ้นนำไปก่อน ทำให้ประชาชนยังมีความสามารถในการซื้อที่มากขึ้น และเกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะช่วยส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ที่เริ่มฟื้นตัวหลังการแพร่รบาดโควิดคลี่คลายลงไปมากแล้ว

นอกจากนี้ยังมองว่าเศรษฐกิจของไทยจะฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค หลังจากโควิดสิ้นสุดลง เพราะไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถปรับตัวได้เร็ว และได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่ดีมาอย่างเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีการเติบโตได้ รวมถึงภาคธุรกิจไทยมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูง ทำให้เป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังโควิด

สำหรับแผนการลงทุนของเครือสหพัฒน์ในปี 65 ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ของปัจจัยต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ทำให้การลงทุนใหม่ๆ อาจจะยังไม่เร่งรีบมาก

ทั้งนี้ หากมีโอกาสที่ดีในการลงทุนใหม่ๆ เข้ามา แต่ละธุรกิจในเครือสหพัฒน์สามารถตัดสินใจลงทุนได้ตามความเหมาะสม ซึ่งไม่ได้ปิดกั้นโอกาสในการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Health & Wellness ที่คนให้ความสำคัญมากขึ้นหลังเกิดการแพร่ระบาดโควิดซึ่งเครือสหพัฒน์เห็นถึงโอกาสในการต่อยอดเข้าไปในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ