บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ "ยำยำ" ขอขึ้นราคาขายส่ง 10 สตางค์ ขณะที่ร้านโชห่วยกำไรลดลง เพราะยังต้องขายปลีก 6 บาทเท่าเดิม
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง มาม่า ไวไว และ ยำยำ ได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอปรับขึ้นราคาขายส่ง เนื่องจากแบกต้นทุนการผลิต และการขนส่งไม่ไหว โดยเฉพาะราคาน้ำมัน น้ำมันปาล์ม และแป้งสาลีที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตปรับตัวสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 65
ล่าสุด มีรายงานว่า ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรายำยำ ได้ปรับขึ้นราคาขายส่งบะหมี่ซองละ 10 สตางค์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา หลังมาม่า และไวไว ได้ขึ้นราคาขายส่งไปก่อนหน้านี้ แต่ราคาขายปลีกยังอยู่ที่ซองละ 6 บาทตามเดิม เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบกับการปรับขึ้นราคาขายปลีกครั้งนี้ คือ ร้านค้าโชห่วย ได้กำไรจากการขายน้อยลง
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงฯ กำลังแก้ไขในเรื่องของราคาน้ำมันปาล์มบริโภค โดยมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแล้ว ประกอบด้วย 1. ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม
2. ตัวแทนโรงงานสกัด 3. ตัวแทนโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค 4. ผู้แทนการส่งออกน้ำมันปาล์ม และ 5. ภาครัฐ เพื่อตั้งเป็นวอร์รูมพิจารณาตัดสินใจกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อทำให้ราคาผลปาล์มดิบที่เกษตรกรขายได้ยังดีอยู่ และขณะเดียวกันก็ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคไม่ราคาสูงเกินไป ให้สมเหตุสมผลทุกฝ่าย ตามแนวของตนที่เป็นวิน-วินโมเดล โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้ดูแล และจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาในเร็วๆ นี้