นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนเม.ย.65 ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่เดือน ก.ย.64 มาอยู่ที่ 40.7 จากระดับ 42.0 ในเดือน มี.ค.65 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 34.6 ลดจาก 35.9, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานอยู่ที่ 38.0 ลดจาก 38.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 49.6 ลดจาก 51.1 ขณะที่ความเชื่อมั่นหอการค้าไทยอยู่ที่ 35.4
สาเหตุที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงทุกรายการมาจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโอมิครอน และปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้น และกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกให้ช้าลง และอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออก และเศรษฐกิจไทยในอนาคต
ทั้งนี้ สนับสนุนให้รัฐบาลตรึงราคาพลังงานไว้ให้นานที่สุด โดยหากรัฐบาลประคองให้น้ำมันไม่ขึ้นเร็วจนเกินไปจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ เพราะหากไม่มีการพยุงราคาน้ำมัน จะทำให้กำลังซื้อหายไปอย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตต่ำกว่า 3% รวมทั้งสนับสนุนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 โดยหากให้เงิน 1,000 บาทจะมีกำลังซื้อเกิดขึ้นฝ่ายละ 30,000 ล้านบาท น่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้
วันเดียวกัน ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง ปาล์ม และรำข้าวเพื่อการบริโภค ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระวังแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวง โดยประกาศขายน้ำมันพืชผ่านช่องทางออนไลน์ในราคาถูกกว่าท้องตลาดในราคา 3 ขวด 100 บาท หรือ 4 ขวด 100 บาท และยกลัง 300 บาท จากราคาในท้องตลาดที่ขายขวดละ 65-68 บาท โดยหลอกให้เหยื่อโอนเงินไปก่อน จากนั้นจะปิดเพจแล้วเชิดเงินหนีไป ซึ่งผู้ประกอบการได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว.