ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าในรอบ 20 ปี

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วต่ำสุดในรอบ 20 ปี เกิดจากการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) สวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด โดยญี่ปุ่นยังใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบอัดเงินเข้าสู่ระบบ ต่างจากเฟดที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ลดขนาดงบดุล ดึงเงินกลับ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ส่วนค่าเงินสกุลอื่นต่างอ่อนค่าลง คนไปถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้น

“ค่าเงินสกุลอื่นๆที่อ่อนค่าลงมาเกิดจากสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและดูดเงินกลับ หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัว โดยประเมินว่าในสัปดาห์หน้าเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% และในเดือน มิ.ย.ปรับขึ้นอีก 0.50% ส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่นๆอ่อนค่ามากขึ้น โดยประเมินว่าในเดือน พ.ค.นี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าไปที่ 34.80-35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ สิ่งที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่นำเงินสินค้าจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะเครื่องจักร ในช่วงนี้ที่เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่ามากๆ ควรรีบซื้อเงินเยน เพื่อชำระค่าเครื่องจักร ซึ่งประเทศไทยจะมีการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นในสัดส่วนที่มากกว่าการส่งออก และสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องจักร”

ด้านนายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าที่ 130 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์เงินเยนมีโอกาสลงไปแตะ 136 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และหากในสัปดาห์หน้าเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอีก ค่าเงินเยนและค่าเงินสกุลอื่นๆ ร่วมทั้งค่าเงินบาท และค่าเงินกลุ่มประเทศ เกิดขึ้น ก็อ่อนค่าลงอีก.