ยักยอกเงินสหกรณ์เกษตรพุ่ง 620 ล้านบาท ดำเนินคดีอาญาแล้ว 435 คดี
Date Time: 20 เม.ย. 2565 06:30 น.
“Summary“
- ถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดกรณีเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าในช่วงที่ผ่านมาได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ ทุกสัปดาห์
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดกรณีเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าในช่วงที่ผ่านมาได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ ทุกสัปดาห์ และจะมีการประชุมในวันที่ 20 เม.ย.อีกครั้ง โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ท้องที่ ที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมสอบถามว่ายังมีความต้องการข้อมูลในส่วนใด เพื่อประกอบการพิจารณาคดีหรือไม่ ซึ่งกระทรวงเกษตรพร้อมให้ข้อมูลอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ล่าสุดจากการตรวจสอบ ขณะนี้พบยอดความเสียหายแล้วเป็นเงิน 620 ล้านบาท จากบัญชีรวมทั้งหมด 4,000 บัญชี คิดเป็นจำนวนสมาชิกกว่า 1,000 คน เนื่องจากบางคนมีการเปิดบัญชีไว้ 3-4 บัญชี แล้วแต่ประเภทของบัญชีที่เปิด ทำให้ความเสียหายมีมากขึ้น โดยขณะนี้นอกเหนือจากการตรวจสอบของกระทรวงเกษตรฯเองแล้ว ได้ประสานให้หน่วยงานอื่นๆ เข้ามาร่วมตรวจสอบ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาร่วมในการตรวจสอบด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำให้การดำเนินคดีมีความคืบหน้าและสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ได้เร็วขึ้น
น.ส.มนัญญา กล่าวต่อว่า ได้สอบถามกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงความเป็นไปได้ในการจัดให้มีระบบการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ยึดมาได้จากหลายๆ กรณีว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะดีกว่าปล่อยทิ้งเอาไว้ ซึ่งมีแต่จะเสื่อมโทรมและราคาลดลง หากสามารถเข้าไปบริหารจัดการในเวลารวดเร็วระหว่างที่รอศาลพิจารณาตัดสิน หรือขายทอดตลาด ว่าจะไปดู ซึ่งเรื่องนี้ นายวิษณุจะมีการกลับไปดู ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
วันเดียวกัน นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญากับผู้ทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ซึ่งเป็นการรายงานการดำเนินคดีอาญาระหว่าง 1 ก.ย.64-1 ม.ค.65 รวมทั้งสิ้น 435 คดี แบ่งเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 323 คดี คนละครึ่ง 110 คดี และเราชนะ 2 คดี โดยเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน 363 คดี สอบสวนเสร็จส่งพนักงานอัยการแล้ว 37 คดี และอื่นๆ 35 คดี สำหรับข้อหาของผู้ทุจริตโครงการรัฐส่วนใหญ่เกี่ยวกับร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
Author
