กรมการค้าภายในขอความร่วมมือห้างตรึงราคาสินค้าช่วงสงกรานต์ และเตรียมสินค้าให้พอรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมเปิดจุดขายสินค้าราคาถูกแบบถาวร ด้าน “ประยุทธ์” ไฟเขียวขึ้นราคาปุ๋ยหลังผู้ค้าชะลอนำเข้า
นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ที่ประชาชนนิยมเดินทางไปเที่ยว และมีการบริโภคเพิ่มขึ้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมติดตามดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เพื่อไม่ให้มีสินค้าขาดแคลน และผู้ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน กรมจึงได้เชิญผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกและค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อมาหารือ โดยขอความร่วมมือไม่ให้ปรับขึ้นราคาขายสินค้าโดยเด็ดขาด และให้เพิ่มสต็อกสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้นโดยพบว่า ขณะนี้ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเพิ่มขึ้น 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
“ภายหลังการหารือ ผู้ประกอบการทุกรายยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ รวมถึงเตรียมจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าอีกด้วย อีกทั้งยังขอให้เซเว่น-อีเลฟเว่น เตรียมอาหารพร้อมรับประทานให้เพียงพอรองรับประชาชนที่เดินทาง นอกจากนี้ยังขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดออกตรวจสอบ และติดตามราคาสินค้า และปริมาณ เพื่อให้มั่นใจว่า ประชาชนจะไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบด้านราคา และปริมาณมีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน”
สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลดความเดือดร้อนของประชาชนนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนมาโดยตลอด และจะทำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เตรียมเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดแบบถาวร ตามโครงการ “โมบายพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน” อีก 20 จุด จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 50 จุดทั่วกรุงเทพฯ และมีรถเคลื่อนที่ (รถพุ่มพวง) อีก 25 คัน นำสินค้าที่จำเป็นขายให้ประชาชนในราคาถูก เช่น ไข่ไก่ น้ำตาล ข้าวสาร น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ รวมถึงสินค้าเกษตร โดยขณะนี้ กำลังเลือกจุดที่จะตั้งแบบถาวรร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และการเคหะแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเข้าถึงแหล่งชุมชน ช่วยลดต้นทุนการเดินทางให้กับประชาชน ร่วมสร้างทำให้ร้านค้าใกล้เคียงไม่กล้าฉวยโอกาสขึ้นราคาขาย
ส่วนการปรับราคาปุ๋ยเคมี ขณะนี้ มีผู้ประกอบการ 2 รายยื่นเรื่องขอปรับขึ้นราคา แต่ยังไม่ได้อนุมัติให้ปรับราคา อยู่ระหว่างการพิจารณาต้นทุน แต่ได้ขอให้ผู้ประกอบการเร่งนำเข้าปุ๋ย เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการใช้ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนช่วงครึ่งแรกปีนี้ ผู้ประกอบการยืนยันว่า มีปริมาณเพียงพอแน่นอน ขณะที่ราคาอาหารสัตว์อยู่ระหว่างการพิจารณาลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ และเกษตรกรผู้ใช้ รวมถึงไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ สำหรับห้างที่เชิญมาขอความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบด้วย สยามแม็คโคร, บิ๊กซี, โลตัส, ท็อปส์ซุปเปอร์มาเก็ต, เซเว่น อีเลฟเว่น, ลอว์สัน, ซีเจ, ฟู้ดแลนด์เพาเวอร์บาย ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 5 เม.ย.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้าของสถานการณ์ปุ๋ยเคมีที่ขณะนี้มีราคาปรับเพิ่มขึ้นสูง หลังมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน จนทำให้ผู้นำเข้าปุ๋ยในประเทศไทย ชะลอการนำเข้าเพราะราคาปุ๋ยในต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคาทำให้หากนำเข้ามาก็ขาดทุน พร้อมสอบถามข้อเท็จจริง และสั่งกระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินการปรับเพิ่มราคาปุ๋ยเคมีในประเทศไทย แต่ต้องสำรวจสต๊อกปุ๋ยเคมีเก่าก่อน ปุ๋ยราคาเก่าที่นำเข้ามาก็ให้ขายราคาเดิม ส่วนปุ๋ยใหม่ที่จะนำเข้าหลังราคาเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวให้ปรับขึ้นได้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับเกษตรกร ที่ปุ๋ยคือต้นทุนการทำเกษตรที่สำคัญ.