หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 ที่ผ่านมาตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (คปภ.เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ อาคเนย์ประกันภัย และ ไทยประกันภัย)
ล่าสุด คปภ.ได้ดำเนินการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัย สำหรับลูกค้าอาคเนย์ประกันภัย และไทยประกันภัย ดังนี้
กรมธรรม์ประกันโควิด
- ผู้เอาประกันที่ได้รับความเสียหายแล้ว หรือ คนที่ติดโควิด และได้ยื่นเรียกร้องความเสียหายแล้ว ให้ยื่นขอรับชำระหนี้จากกองทุนประกันวินาศภัย โดยกองทุนจะเป็นผู้เข้ามารับช่วงจ่ายเคลมค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกัน ตามที่ได้มีการอนุมัติค่าสินไหมทดแทนไว้แล้ว
- ผู้เอาประกันที่ยังไม่ได้ยื่นเรียกร้องความเสียหาย หรือติดโควิดแต่ยังไม่ได้เคลมประกัน ให้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากกองทุนประกันวินาศภัย โดยกองทุนจะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขกรมธรรม์
- ประกันโควิดที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ ให้ขอรับเบี้ยประกันภัยที่เหลือคืนจากกองทุนประกันวินาศภัย โดยกองทุนจะคืนเบี้ยให้ตามส่วนระยะเวลาตามความคุ้มครองที่เหลืออยู่
- นำเบี้ยประกันภัยที่จะได้รับคืนไปใช้แทนเงินสดในการเลือกซื้อประกันภัยจากบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภทกรมธรรม์ประกันภัย
กรมธรรม์ประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันโควิด
- กรมธรรม์ประเภทอื่น เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันอัคคีภัย อาคเนย์ประกันภัยมีประมาณ 5,717,217 กรมธรรม์ ไทยประกันภัยจำนวน 199,016 กรมธรรม์
- ประกันภัยทั้งหมดถูกโอนย้ายไปยังบริษัทประกันภัยอื่นๆ ปัจจุบันเหลือเพียง 269 กรมธรรม์ ที่ลูกค้าไม่ประสงค์ใช้สิทธิในการโอนกรมธรรม์ไปยังบริษัทอื่น คปภ.จะเร่งติดตามให้บริษัทแจ้งสิทธิเพื่อให้ผู้เอาประกันภัยตัดสินใจทางเลือกว่าจะคืนเบี้ย หรือโอนกรมธรรม์ไปยังบริษัทแห่งใหม่
กรอบระยะเวลาในการรับเงินคืน
ระยะเวลาที่ต้องยื่นเอกสารเพื่อขอรับเงินคืน โดยในที่นี้ขอเรียกว่า "เจ้าหนี้" โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
- เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่กองทุนฯ กำหนดในประกาศ โดยกองทุนจะนำหลักทรัพย์ประกัน และเงินสำรองประกันภัยของบริษัทที่วางไว้กับนายทะเบียนมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่ไม่มีข้อโต้แย้ง และจะนำเงินของกองทุนมาจ่ายส่วนที่ขาด รวมแล้วไม่เกินหนึ่งล้านบาทต่อราย
- เจ้าหน้ีอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้ีตามสัญญาประกันภัย ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่กองทุนฯ กำหนดในประกาศ โดยหลังจากที่มีการนำทรัพย์สินของบริษัทจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยครบถ้วนแล้ว หากมีทรัพย์สินของบริษัทเหลือจะนำมาให้แก่เจ้าหนี้อื่นๆ และหากไม่เพียงพอเจ้าหนี้อื่น จะต้องยืนขอชำระหนี้ส่วนที่ขาดจากองทรัพย์สินคดีล้มละลายอีกครั้ง
ย้ำว่า เจ้าหนี้ที่ไม่ยื่นคำขอชำระหนี้ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่กองทุนประกาศกำหนด จะทำให้เสียสิทธิในการชำระหนี้ เป็นผลให้ไม่ได้รับเงินตามสัญญาประกันภัย
เอกสารที่ต้องเตรียม
ให้นำเอกสารต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 2 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้
1. กรมธรรม์ประกันภัย
2. บัตรประจำตัวประชาชน
3. ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงถึงมูลหนี้
4. หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)
หากเป็นเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยให้นำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ ต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 1 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้
1. หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้
2. บัตรประจำตัวประชาชน
3. หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)
กรณีที่หากเจ้าหนี้ไม่สามารถยื่นได้ด้วยตนเองจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจโดยติดอากรแสตมป์ 30 บาท พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ยื่นต่อกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะผู้ชำระบัญชีของทั้งสองบริษัทฯ
โดยผู้เอาประกันภัยสามารถยื่นได้ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด ดังนี้ ในส่วนกลาง ยื่นได้ 4 แห่ง ประกอบด้วย
1. สำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง เลขที่ 22/79 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-2515-3999 หรือ สายด่วน คปภ. 1186 หรือ chatbot คปภ. รอบรู้ (LINE@OICConnect)
2. สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ เลขที่ 287 ซอยรัชดาภิเษก 6 ถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2476-9940-3
3. สำนักงาน คปภ. เขตบางนา เลขที่ 1/16 อาคารบางนาธานี ชั้น 8 ถนนบางนาตราด กม.3 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2361-3769-70
4 ในส่วนภูมิภาค สามารถยื่นขอรับชำระหนี้ได้ที่สำนักงาน คปภ. ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัด ทั่วประเทศ