กกพ.รื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐาน เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้พลังงานมากขึ้น

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.กำลังทำโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ทั้งระบบ ซึ่งอาจปรับค่าไฟฟ้าฐานจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.76 บาท/หน่วย เพราะเป็นรอบที่ต้องปรับประจำอยู่แล้ว 3-5 ปีต่อครั้ง อีกทั้งค่าไฟฟ้าฐานปัจจุบันใช้มาตั้งแต่ปี 58 จึงต้องปรับใหม่ให้สอดคล้องกับการใช้พลังงานมากขึ้น คาดว่าภายในเดือนเม.ย.นี้ จะประกาศเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และจะกำหนดใช้ได้ภายในกลางปี 65 “ค่าไฟฟ้าฐานมีแนวโน้มสูงขึ้น เพื่อสะท้อนโครงสร้างพื้นฐานการผลิตไฟรวมถึงการใช้เชื้อเพลิง แต่ครั้งล่าสุดนี้อาจเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมหรือมีมิเตอร์ไฟสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดใหญ่ (TOU) เพราะจะเกลี่ยอัตราเรียกเก็บไฟฟ้าในช่วงความต้องการใช้ไฟสูง (พีก) และนอกช่วงเวลานี้ (ออฟ-พีก) ใหม่ ให้สะท้อนการใช้งานจริง แต่ยืนยันว่าผู้ใช้ไฟบ้านจะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน”

นอกจากนี้ กกพ.ยังติดตามราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดจร (สปอต) ซึ่งอาจกระทบมายังราคาค่าไฟเนื่องจากไทยนำเข้าแอลเอ็นจีเสรีช้าเกินไป ปัจจุบันจึงมีสัญญาระยะยาวน้อย รวมถึงคลังที่ใช้กักเก็บมีไม่เพียงพอ จึงต้องใช้แหล่งสปอตเข้ามาช่วย ถ้าเปิดเสรีตั้งแต่ปี 62 ปัจจุบันจะมีราคาก๊าซที่ลงตัว ส่วนแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ในช่วงต่อไปคาดว่าจะสูงขึ้น เพราะใช้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติมาผลิตไฟจากเริ่มต้นที่ 8% ในช่วงปี 54 เพิ่มขึ้นเป็น 33% ในปี 64 และมากกว่า 40% ในปี 65 จึงทำให้แนวโน้มค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากจะตรึงหรือลดค่าเอฟทีต้องมีคนแบกรับต้นทุนส่วนนี้.