"กรมบัญชีกลาง" ออกแนวปฏิบัติการเบิกค่ารักษาพยาบาลใน "คลินิก" กรณีให้บริการผู้มีสิทธิ์ รวมทั้งบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19
วันที่ 18 มี.ค. 2565 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยว่า ตามที่กรมบัญชีกลางได้ออกหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ให้สถานพยาบาลของทางราชการถือปฏิบัติ แต่เนื่องจากปัจจุบันในพื้นที่เขตเมืองโดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก
ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยอาการเล็กน้อย (สีเขียว) ซึ่งการให้บริการทางการแพทย์ประเภท Home Isolation, Community Isolation และ Self Isolation รวมถึงสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล (คลินิก) จะเป็นผู้ให้บริการกับผู้ป่วยทุกสิทธิ ซึ่งรวมถึงผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวด้วย
ดังนั้น เพื่อให้การบริการทางการแพทย์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง กรมบัญชีกลาง จึงได้กำหนดแนวปฏิบัติการเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีคลินิก ให้บริการผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยกำหนดให้คลินิกที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 และหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านเภสัชกรรมและสถานบริการที่ร่วมจัดบริการสาธารณสุข กรณีติดเชื้อโควิด-19 มีสถานะเป็นสถานพยาบาลของทางราชการ ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 โดยสามารถให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว และเบิกค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการได้
ดังนั้น การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของสถานพยาบาล ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน หรือคลินิก ให้ใช้หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 มาใช้บังคับกับการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาล
ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 203 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2565 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 02 127 7000 ต่อ 6854 4441 ในวัน เวลาราชการ.