สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน กระทบชิ่งมายังนักท่องเที่ยวสองชาติที่กำลังอยู่ในประเทศไทย ร้อนถึงทางการของไทยไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องรีบช่วยกันหาทางแก้ไข เพื่อป้องกันความเสียหายทางธุรกิจและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ตกค้าง
หลังจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้ยื่นตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าพักตามโรงแรมต่างๆในภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา รวมๆแล้วประมาณ 6,000-7,000 คน ประกอบกับตัวเลขที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตรวจสอบกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า ตอนนี้ที่อยู่ในไทยมีรัสเซีย 25,000 คน และยูเครน 2,700 คน
ปัญหาที่เกิดขึ้นมี 4 ประเด็นหลักคือ 1.นักท่องเที่ยวตกค้างจากการยกเลิกเที่ยวบินของรัสเซีย และสภาวะสงครามในยูเครน ทำให้บินกลับประเทศไม่ได้
2.นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน การเบิกถอนเงินสด การโอนเงินระหว่างประเทศผ่านระบบ Swift ที่ถูกชาติตะวันตกยกเลิก รวมถึงการจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีติดเชื้อ ซึ่งบริษัทประกันไม่สามารถโอนจ่ายให้ได้
3.ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงราว 30% ทำให้ค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ และการใช้ซื้อสินค้าและบริการของนักท่องเที่ยวรัสเซีย รวมไปถึงแพ็กเกจท่องเที่ยวสูงขึ้นราว 30% ส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางต่างประเทศ
4.ปัญหาจากการยกเลิกเที่ยวบิน จากที่กลุ่มประเทศในยุโรปปิดน่านฟ้าเพื่อไม่ให้อากาศยานของรัสเซียทำการบิน การยกเลิกการให้เช่าอากาศยานของรัสเซีย และการยกเลิกประกันภัย ทำให้มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินจากรัสเซียที่บินตรงมากรุงเทพฯ, ภูเก็ต, กระบี่ ทันที ไม่ว่าจะเป็น Aeroflot Russian Airline, S7 Airline, Ural Airline, Singapore Airline ส่งผลให้นักท่องเที่ยวรัสเซียไม่สามารถเดินทางกลับได้
ปัญหาทั้งหมดถูกหยิบยกเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีข้อสรุปในการช่วยเหลือที่ชัดเจน ในวันรุ่งขึ้น 9 มี.ค.2565ททท.ได้ประชุมภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อเจาะไปให้ถึงนักท่องเที่ยวของทั้งสองชาติที่ต้องการรับความช่วยเหลือจริงๆให้ติดต่อกับสถานทูตและสถานกงสุลของรัสเซียและยูเครน เพื่อจำกัดขอบเขตการช่วยเหลือให้ตรงเป้า เพราะพบว่าชาวรัสเซียจำนวนมากทำธุรกิจในไทย มีบ้าน มีคอนโดมิเนียมในไทย ไม่ใช่กลุ่มที่เดือดร้อน และไม่ได้ต้องการบินกลับประเทศในช่วงนี้
ส่วนปัญหาการทำธุรกรรมทางการเงิน ทางภาคเอกชนท่องเที่ยวจะประสานกับสถาบันการเงินเพื่อแก้ปัญหาไปก่อน ขณะนี้ยังพบปัญหาไม่มากนัก เพราะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรัสเซียเวลาออกนอกประเทศจะพกเงินสดเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ และจ่ายค่าโรงแรมที่พักล่วงหน้ามาแล้ว
กรณีที่ถูกหยิบยกกันมาก คือ บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารของรัสเซียที่ใช้วีซ่า และมาสเตอร์ การ์ด เป็นตัวกลางชำระเงินได้ระงับการให้บริการชำระเงินกับสถาบันการเงินของรัสเซียตามมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ
จากการสำรวจวิธีแก้ปัญหาของแต่ละเมืองท่องเที่ยวหลักที่มีชาวรัสเซียอยู่มาก เริ่มต้นจาก จ.ภูเก็ต นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ระบุว่า ปัญหาการรับชำระเงินในตอนนี้ยังมีไม่มาก เพราะโรงแรมจำนวนมากในภูเก็ตมีเครื่องอีดีซีที่รองรับการรูดบัตรในระบบยูเนียน เพย์ของจีน ซึ่งชาวรัสเซียใช้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวถึงปีละ 4 ล้านคน อีกทั้งนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เป็นกลุ่มที่มีฐานะดีก็จะมีบัตรเครดิตหลายใบให้เลือกใช้ และทราบว่าตอนนี้ธนาคารของรัสเซียกำลังแก้ปัญหาโดยออกบัตร Virtual Card ที่จ่ายผ่านระบบออนไลน์ได้ กลุ่มที่มีปัญหาอาจจะเป็นนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กเกอร์ที่พักโรงแรมราคาถูก หากตกค้างในไทยนานอาจทำให้เงินที่มีอยู่หมดไป
ขณะที่พัทยา นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก กล่าวว่า เพิ่งมีนักท่องเที่ยวรัสเซียที่มีปัญหาบัตรเครดิตรูดไม่ได้เพียง 1-2 ราย ได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวนำล่ามภาษารัสเซียมาประสานให้โอนเงินผ่านระบบ Western Unionได้ แต่ต้องรอสิ้นเดือน มี.ค. จะเห็นปัญหาชัดขึ้น หากมีนักท่องเที่ยวตกค้างในไทยนาน
ด้านเกาะสมุย นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียในเกาะสมุย ร่วม 2,000 คน เพิ่งมีการแจ้งขอรับการช่วยเหลือกับทางสถานกงสุลรัสเซีย 250 คน ขณะที่เกาะสมุยจะมีสังคมการอยู่ร่วมกันของชาวรัสเซีย-ยูเครน ที่พูดภาษาคล้ายกัน หากนักท่องเที่ยวรายใดยังกลับประเทศไม่ได้ ได้จัดเตรียมห้องพักของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีบนเกาะสมุย ในราคา 4,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสมาคมจะหาเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายบางส่วน และทางกิ่งกาชาดอำเภอเกาะสมุย สนับสนุนทำอาหารให้ฟรี ด้านโรงพยาบาลไทยอินเตอร์เนชั่นแนล เกาะสมุย ช่วยรับรักษานักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ค้างค่ารักษาพยาบาลไว้ก่อนได้
ทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมของปัญหาและการแก้ไขเฉพาะหน้า อาจต้องรอดูสิ้นเดือน มี.ค.นี้อีกทีว่าปัญหาจะบายปลายหรือแก้ไขได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ที่แน่ๆจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียที่จะมาไทยในปีนี้ลดลงกว่าเป้าที่ตั้งไว้แน่นอน.
อมรรัตน์ จรูญสมิทธิ์