นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรม เดือน ก.พ. 2565 มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นจากผลของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐ และการกลับมาเปิดลงทะเบียน Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.65 อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีสัดส่วนต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 จากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน และการเดินทางเข้าพักมีต้นทุนสูง เช่น การตรวจ RT-PCR ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ก.พ.65 ได้สำรวจระหว่างวันที่ 11-23 ก.พ.65 จากผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 142 แห่ง ในนี้เป็นโรงแรมกักตัวทางเลือก หรือ AQ 12 แห่ง และฮอสพิเทล 3 แห่ง โดยข้อมูลสรุปผลสำรวจจากโรงแรม 127 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็น AQ และฮอลพิเทล) มีโรงแรม 72% เปิดกิจการปกติ ใกล้เคียงเดือน ม.ค. ที่ 73%
ทั้งนี้ โรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวมีสัดส่วนราว 3% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่ปิดมามากกว่า 6 เดือน และคาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งอย่างเร็ว ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 65 เป็นต้นไป ส่วนรายได้ของโรงแรมส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำ ใกล้เคียงเดือน ม.ค. และมีโรงแรมที่รายได้กลับมาไม่ถึง 30% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 ยังมีสัดส่วนราว 49% และโรงแรมที่รายได้กลับมาแล้วเกินครึ่งหนึ่งมีสัดส่วนลดลงเหลือเพียง 19%
“ปัจจุบันโรงแรมส่วนใหญ่มีปัญหาขาดแคลนแรงงานมีทักษะ คิดเป็น 43% ของโรงแรมทั้งหมด โรงแรมกว่าครึ่งหนึ่งขาดแคลนพนักงานบริการด่านหน้า ได้แก่ พนักงานต้อนรับ พนักงานบริการด้านอาหาร พนักงานดูแลห้องพัก และครัว แม้จะมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน โรงแรมส่วนใหญ่ยังไม่จ้างพนักงานประจำเพิ่ม และยังคงจ้างด้วยอัตราจ้างเท่าเดิม โดย 46% มีการจ้างพนักงานเพิ่มชั่วคราว หรือเป็นหลักพาร์ตไทม์ และ 26% ไม่มีการจ้างเพิ่ม แต่ปฏิบัติงานตามความสามารถที่ทำได้ด้วยอัตราค่าจ้างเท่าเดิม ขณะที่มีเพียง 11% เพิ่มค่าจ้างเพื่อรักษาแรงงานเดิมและดึงดูดแรงงานใหม่.