เช็กชัดๆ เปิดรายละเอียดการรับสิทธิ์สำหรับผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" ตามปฏิทินของเดือนมีนาคม 2565 พบมีเงินเข้าหลายรายการ แถมยังมีส่วนลดอีกเพียบ
1. ได้เท่าไร : วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 400/500 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 200 บาท)
ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
2. ได้เท่าไร : ค่าเดินทาง ค่ารถโดยสารสาธารณะ แบ่งเป็น รถเมล์, รถไฟฟ้า (รฟม. และ BTS) 500 บาท, รถ บขส. 500 บาท และรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
3. ได้เท่าไร : วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน (3 เดือนใช้ได้ 1 ครั้ง) โดยนำบัตรไปซื้อกับร้านที่ร่วมรายการ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
4. ได้เท่าไร : ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครได้ : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564-ก.ย. 2565)
5. ได้เท่าไร : ค่าไฟ 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครได้ : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564-ก.ย. 2565)
6. ได้เท่าไร : เบี้ยความพิการเพิ่มเติม 200 บาท/เดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
ใครได้ : ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โอนเข้าบัญชีธนาคาร 1,000 บาท/เดือน (จากเดิม 800 บาท/เดือน) และผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอนเข้าบัญชีธนาคาร 800 บาท และจะได้รับเบี้ยความพิการเพิ่ม 200 บาท/เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 เป็นต้นไป โดยจ่ายเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ขณะที่ "กระทรวงการคลัง" ได้กำหนดข้อมูลเบื้องต้นการลงทะเบียน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รอบใหม่ไว้ว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่กลางปี 2565 เมื่อลงทะเบียนแล้วเสร็จ จะคัดกรองคุณสมบัติ เพื่อเริ่มใช้บัตรคนจนในปี 2566 เป็นต้นไป โดยจะทบทวนข้อมูลทุกปี
ส่วนคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบนี้จะเข้มข้นและมีรายละเอียดหลายข้อเพื่อให้บัตรคนจนช่วยคนจนจริงๆ อาทิ 1.มีสัญชาติไทย 2.มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 3.ไม่เป็นบุคคลดังต่อไปนี้ ภิกษุ, สามเณร หรือนักพรต, นักบวช, ผู้ต้องขัง, ผู้ถูกกักกัน, ผู้ต้องกักขัง, บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์, ข้าราชการ, พนักงานราชการ, พนักงาน, ลูกจ้าง, เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ, ผู้รับบำเหน็จรายเดือน, ผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา
รวมทั้ง รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง (การคำนวณรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมรายได้ของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลการจ่ายเงินได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0-2109-2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. หรือที่กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 ในวัน-เวลาราชการ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง