ตลาด อ.ต.ก.ขายหมู 140 บาทต่อกิโลกรัม ซื้อได้คนละไม่เกิน 5 กก.

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) ว่า ได้มีการแก้ไขปัญหา และสำรวจจำนวนสุกรทั้งหมดของประเทศ พบว่าเกษตรกรรายย่อยหยุดเลี้ยงไป 12% มีปริมาณหมูอยู่ในระบบ 90% ซึ่งจำนวนปริมาณที่ลดลงไปก็ได้ดูแลราคาหมูตามกลไกตลาด ล่าสุดราคาเฉลี่ยปรับลดลงอยู่ที่ 180 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และปีนี้จะสามารถกลับมาผลิตได้ 20 ล้านตัน ซึ่งในรอบของการเลี้ยงแม่พันธุ์หมู 1 ตัว ภายใน 1 ปี จะได้ 2-5 รอบ การบริหารจัดการที่จะไม่ทำให้เนื้อหมูราคาสูงเกินไป ยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการที่จะให้แม่พันธุ์หมูจากปัจจุบันมีจำนวนพ่อพันธุ์เสียหายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้เตรียมพร้อมในการที่จะผสมเทียม เพื่อให้มีความปลอดภัยและแม่นยำมากกว่า มั่นใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ

“แนวทางการนำเข้าหมู จะพิจารณาตามความเหมาะสม บนสมมติฐานหากเกินกว่า 200 บาทต่อ กก. แต่หากสถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ เฉลี่ยที่ 180 บาทต่อ กก. และเป็นราคาที่ประชาชนรับได้ ก็อาจไม่ต้องนำเข้า จึงอยากขอความร่วมมือโบรกเกอร์ พ่อค้าแม่ค้าร่วมมือกันเพื่อให้ราคากลับสู่สภาวะปกติให้เร็วขึ้น”

นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กรณีที่อาจมีการกักตุนสินค้าประเภท เนื้อสุกรเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบห้องเย็น เพื่อแก้ปัญหาเพื่อป้องกันการกักตุนซากสุกรทั่วประเทศ ซึ่งล่าสุดมีการตรวจพบซากหมูรวม 25 ล้านตัน

นายปณิธาน มีไชยโย รองผู้อำนวยการและรักษาการผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า อ.ต.ก.ร่วมกับกรมปศุสัตว์ จัดโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” ระหว่างวันที่ 12-19 ก.พ.นี้ เพื่อจำหน่ายหมูเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นหมูเนื้อแดงคุณภาพดี การันตีด้วยมาตรฐานปศุสัตว์ OK ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพียงกก.ละ 140 บาท โดยจะนำมาจำหน่ายที่ตลาด อ.ต.ก. จำนวน 150,000 กก. และมีการกำหนดให้ซื้อได้คนละไม่เกิน 5 กก. ณ ลานกิจกรรมตลาดริมน้ำ อ.ต.ก. เลียบคลองบางซื่อ ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน.