นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือน พ.ย.64 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ 5,642 ราย เพิ่ม 2% เทียบกับเดือน ต.ค.64 และเพิ่มขึ้น 26% เทียบเดือน พ.ย.63 มีทุนจดทะเบียน 16,983.40 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร ที่ติดอันดับ 3 ต่อเนื่องมาแล้ว 7 เดือน ตามการขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์และการค้าออนไลน์
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการมี 2,892 ราย เพิ่ม 46% เทียบเดือน ต.ค.64 และเพิ่มขึ้น 18% เทียบเดือน พ.ย.63 มีทุนจดทะเบียนเลิก 109,271.11 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร ซึ่งเป็นปกติของทุกปีที่ธุรกิจส่วนใหญ่ในช่วงปลายปี จะจดเลิกกิจการเพิ่มขึ้น เพราะไม่ต้องการจัดทำงบการเงินและส่งงบการเงิน
“สาเหตุที่จดทะเบียนตั้งใหม่เพิ่มขึ้นมาจากการคลายล็อกดาวน์ การเปิดประเทศ และมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น คนมั่นใจทำธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง เช่น ธุรกิจรับส่งเอกสาร สิ่งของ และการขายปลีกทางอินเตอร์เน็ต ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งนี้ ในเดือน ธ.ค.64 คาดว่าจะมีธุรกิจจดทะเบียนตั้งใหม่ 3,000-4,000 ราย แต่ยังต้องจับตาว่าการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ที่จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจเพียงใด ส่วนยอดตั้งใหม่รวมทั้งปี 64 คาดว่าจะอยู่ที่ 72,000 ราย เกินกว่าเป้าหมายที่กรมได้ตั้งไว้ที่ 65,000-70,000 ราย และปี 65 ตั้งเป้าไว้ที่ 65,000-70,000 ราย”.