นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังประชุมติดตามความคืบหน้า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานผลการดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 และเร่งรัดก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในช่วงขอนแก่น-หนองคาย รวมถึงการติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ สายเหนืออีสาน
ซึ่งในภาพรวมพบว่า โครงการทางคู่ ระยะที่ 1 มีผลก่อสร้างเร็วกว่าแผน 3 สัญญา ประกอบด้วย ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ, ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1, ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 2 นอกจากนั้น ให้ รฟท.เร่งรัดก่อสร้างสัญญาที่ล่าช้ากว่าแผนให้เป็นไปตามแผนงาน ประกอบด้วย ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ, ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1, ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3, ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์, ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 1, ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 2
นอกจากนั้นได้สั่งการให้ รฟท. เร่งรัดการนำเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีตามแผนงานที่กำหนดไว้ซึ่งโครงการดังกล่าวหากมีการดำเนินการเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟทางคู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนให้มีความสมบูรณ์ และสามารถเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์กับ สปป.ลาว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์เพดานหนี้สาธารณะของประเทศขณะนี้ และ รฟท.ก็ต้องมีโครงการที่ดำเนินการอีกหลายๆโครงการ ดังนั้นขอให้ รฟท. ศึกษาแนวทางอื่นๆที่เหมาะสมกับโครงการของ รฟท. เพื่อลดภาระพึ่งพางบประมาณของประเทศ เช่น เปิดเอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP หรือการศึกษาแนวทางการทำกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFF ของ กทพ.เพื่อให้แปลงแผนงานไปสู่การปฏิบัติได้.