ย่างเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี พ.ศ.2564 เตรียมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่สำหรับเรื่องการลงทุนแล้ว ไม่มีคำว่าส่งท้าย เพราะไม่ว่าคุณจะวัยไหน อายุเท่าไร ก็สามารถต้อนรับประตูสู่การลงทุนได้ทุกเมื่อ
โดยมี “กองทุนรวม” เป็นเครื่องมือการลงทุน จะลงทุนสินทรัพย์ในประเทศ หรือต่างประเทศ ก็สามารถลงทุนได้ง่ายๆ ไม่เกี่ยงจำนวน เงินลงทุน และยังมีมืออาชีพอย่าง “ผู้จัดการกองทุน” ทำงานให้เราเต็มเวลา ช่วยดูแลผลประโยชน์ของเราให้อีกด้วย
เพียงแต่ว่าเราต้องยอมรับสภาพและความจริงที่ว่า วัยที่แตกต่างและเวลาที่มีไม่เท่ากัน ย่อมมีผลต่อพฤติกรรมและลักษณะการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น วัย 50 อัป หรือใกล้เกษียณ จะให้ลงทุนแบบกล้าได้กล้าเสีย เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน เหมือนคนอายุยี่สิบสามสิบนั้น มันอิมพอสซิเบิล!!
คนในกลุ่มเจเนอเรชันหลักของสังคม คือ Gen X-Y และ Z ต่างมีเป้าหมายของชีวิตเงื่อนไขข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปตามวัยและช่วงอายุ ซึ่งก็เป็นปัจจัยในการกำหนดเป้าหมายและทางเลือกในการลงทุน
คน Gen–X เป็นกลุ่มคนเกิดอยู่ในช่วงปี พ.ศ.2508–2522 หรืออายุตั้งแต่ 42–56 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก อาบน้ำร้อนมาจนลวกตัวแทบเปื่อย รอวันเกษียณ ความกล้าเสี่ยงและความท้าทายก็ถดถอยน้อยลง เพราะมีเวลาใน การออมและลงทุนเหลือน้อยลง คนกลุ่มนี้จะวางเป้าหมายการลงทุนเพื่อมีเงินเอาไว้ใช้ช่วงปลายชีวิต ลักษณะการลงทุนจึง เน้นเรื่องของ ‘ความมั่นคง’ ของเงินต้นที่ต้องไม่หาย และสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งดี เช่น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนประหยัดภาษี
กลุ่ม Gen–Y กลุ่มคนที่เกิดในช่วง พ.ศ.2523–2540 หรือมีอายุตั้งแต่ 24–41 ปี เป็นคนวัยทำงาน หรือกำลังเริ่มต้นธุรกิจ เริ่มสร้างครอบครัว เป็นช่วงที่มีรายได้และภาระค่าใช้จ่ายสูง ต้องอาศัย การจัดพอร์ตลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคง ในระยะยาว เน้นลงทุนใน ‘กองทุนประหยัดภาษี’ คือ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และ “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)” ให้ได้ทั้งผลตอบแทนและประโยชน์ทางภาษีควบคู่กันไป
วัยเริ่มต้นทำงาน อย่างคนกลุ่ม Gen–Z หรือกลุ่มคนที่เกิด พ.ศ.2541–ปัจจุบัน หรือช่วงอายุต่ำกว่า 23 ปี ถือว่ายังมีโอกาสลองผิดลองถูกได้อีกเยอะ สามารถลงทุนในกลุ่มกองทุนที่มีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น “กองทุนหุ้น”, “กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ” หรือ “กองทุน Thematic” เช่น Technology, Health Care, ESG เป็นต้น ใครที่อยู่ในเจนนี้ อยากให้ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบเรื่องเวลา ทักษะและประสบการณ์การลงทุนที่มีเหลือยาวนานกว่า Gen อื่นๆ ยิ่งเริ่มต้นได้เร็วก็จะยิ่งดีกับตัวเอง
จะเห็นได้ว่า ประตูสู่การลงทุนของคนเจเนอเรชันที่แตกต่างกัน สามารถมีประตูบานเดียวกันได้ นั่นคือ “กองทุนรวม” จะต่างวัย ต่างเป้าหมาย เงินลงทุนมากน้อยไม่เป็นอุปสรรค เพราะทุกคนสามารถเปิดประตูบานนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ของแต่ละคนได้
ปิดท้ายวันนี้ ขอกำลังใจจากผู้อ่านช่วยแนะนำติชมคอลัมน์นี้ เพื่อ “คุณนาย” จะนำข้อแนะนำความคิดเห็นไปพัฒนาปรับปรุงเนื้อหามาถ่ายทอดให้ได้ตรงใจตรงความต้องการผู้อ่านให้ดียิ่งขึ้น จะมี ATK ชุดตรวจโควิดด้วยน้ำลาย เป็นรางวัลเล็กน้อยให้สำหรับ 100 ท่านแรก เพียงกด Link นี้ https://bit.ly/3FqTLx9 เพื่อตอบแบบสอบถามเท่านั้น
ขอให้เฮงเฮง รวยรวย ปังปัง ปลอดภัยปลอดโควิดไปด้วยกันค่า!!
คุณนายพารวย