ชงประกันข้าว-ยาง 1.4 แสนล้าน รัฐมีเงินจ่ายชดเชยรายได้ชาวนาตรงทุกงวด

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ชงประกันข้าว-ยาง 1.4 แสนล้าน รัฐมีเงินจ่ายชดเชยรายได้ชาวนาตรงทุกงวด

Date Time: 30 พ.ย. 2564 06:10 น.

Summary

  • คลังชง ครม.ไฟเขียววงเงินโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 1.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นข้าวเปลือก 7.6 หมื่นล้านบาท สนับสนุนค่าบริหารจัดการข้าว 5.4 หมื่นล้านบาท และยางพาราอีก 1 หมื่นล้านบาท

Latest

อ่านเกม กนง.ลดดอกเบี้ย ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของขาลง จับตาหนี้ครัวเรือน - สินเชื่อหดตัว “จุดเปลี่ยน”

คลังชง ครม.ไฟเขียววงเงินโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 1.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นข้าวเปลือก 7.6 หมื่นล้านบาท สนับสนุนค่าบริหารจัดการข้าว 5.4 หมื่นล้านบาท และยางพาราอีก 1 หมื่นล้านบาท หลังขยายเพดานก่อหนี้เป็น 35% ลั่นชาวนารอรับเงินชดเชยรายได้งวด 3–7 ได้เลย ด้านพาณิชย์จับมือเอกชนลดราคาขายเคมีเกษตร 35% ช่วยเกษตรกร

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 พ.ย.นี้ กระทรวงจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมที่จะใช้ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรผู้ปลูกข้าวปี 64/65 ในส่วนที่ยังตกค้างอีก 76,000 ล้านบาท รวมถึงอนุมัติโครงการดูแลสินค้าเกษตรอื่นๆ เพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สามารถเร่งจ่ายเงินส่วนต่างให้แก่ชาวนา หลังจากที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เห็นชอบให้ขยายเพดานก่อหนี้ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 28 เพิ่มเป็น 35% จากเดิม 30% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีวงเงินกู้เพิ่มขึ้นเป็น 155,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดูแลพืชผลทางการเกษตรที่จะเสนอให้ ครม.อนุมัติครั้งนี้ มีวงเงินรวมกว่า 140,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการประกันรายได้ข้าวเปลือก 76,000 ล้านบาท โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละ 20 ไร่ วงเงิน 54,900 ล้านบาท และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอีก 10,000 ล้านบาท ส่วนชาวนาที่ยังไม่ได้เงินส่วนต่างประกันรายได้งวดที่ 3-7 คาด ธ.ก.ส.จะโอนให้ได้ในสัปดาห์นี้

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่มีตนเป็นประธานได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวเปลือกที่จะใช้เป็นเกณฑ์จ่ายชดเชยส่วนต่างรายได้ให้กับผู้ปลูกข้าว และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 64/65 ถึง 7 งวดแล้ว แต่ ธ.ก.ส.เพิ่งจ่ายได้เพียงงวดที่ 1, 2 และงวด 3 บางส่วนเพราะติดปัญหาเพดานก่อหนี้ ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 28 ที่กำหนดที่ 30% ทำให้เงินที่รัฐจะก่อหนี้เพิ่มได้ ใกล้ถึงเพดานแล้ว แต่หลังจากที่ ครม.เห็นชอบขยายเพดานก่อหนี้เพิ่มเป็น 35% แล้ว ธ.ก.ส.จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรได้ภายใน 3 วันทำการ ส่วนการจ่ายงวดที่ 8-33 เกษตรกรจะได้รับเงินตรงงวดแน่นอน ถ้าราคาอ้างอิงต่ำกว่าราคาประกันรายได้ แต่คาดว่าจะจ่ายชดเชยลดลงเรื่อยๆ เพราะราคาข้าวเปลือกเริ่มขยับขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร กรมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ผลิต ผู้นำเข้าเคมีเกษตร จาก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย จัดทำโครงการลดราคาเคมีเกษตรช่วยเกษตรกร โดยจะลดราคาขายเคมีเกษตร 3 กลุ่ม คือยากำจัดวัชพืช ลดสูงสุด 22% หรือลด 10-150 บาท, ยาปราบศัตรูพืช/แมลง ลดสูงสุด 26% หรือ 3-135 บาท และยากำจัดโรคพืช ลดสูงสุด 35% หรือ 5-150 บาท รวม 74 รายการ 235,268 ลิตร/กิโลกรัม เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.64-28 ก.พ.65 เป็นเวลา 3 เดือน คาดจะช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

“เคมีเกษตรที่จะนำมาลดราคาครอบคลุมพืชทุกชนิด ทั้งข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ไม้ผล ทั้งทุเรียน มังคุด ฯลฯ เกษตรกรที่สนใจ สั่งซื้อผ่านเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และสหกรณ์จังหวัด แต่ต้องแจ้งว่าจะไปรับสินค้าที่ร้านค้าใด หลังจาก 3 เดือนแล้ว ยังจะขอความร่วมมือนำเคมีเกษตรตัวอื่นมาลดราคาให้ต่อเนื่องอีก”

ส่วนนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปี 64/65 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว วงเงินสินเชื่อรวม 20,401 ล้านบาท ไม่คิดดอกเบี้ย นอก จากนี้ยังช่วยเหลือค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกหลักประกัน 1,500 บาทต่อตัน และสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรปี 64/65 วงเงินสินเชื่อรวม 15,000 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ