เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร เผยต้นทุนอาหารเลี้ยงหมูสูงขึ้น 20-30% ทั้งข้าวโพดเลี้ยง กากถั่วเหลือง ปลายข้าว รำข้าว โดยเฉพาะปลายข้าวที่ราคาพุ่งสูงขึ้นสวนทางข้าวราคาถูก
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 64 นายเสน่ห์ นัยเนตร เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปัจจุบันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ประมาณ 11 บาท และผมก็เชื่อว่าจะไปถึง 12 บาทแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าราคาแบบนี้จะส่งผลถึงต้นทุนการผลิตหมู แต่ที่ผมแปลกใจกว่า คือ ราคาปลายข้าวที่แพงมาก ซึ่งตอนนี้ราคาขึ้นไปอยู่ที่ 11 บาทแล้ว ทั้งๆ ที่ตอนนี้ราคาข้าวเปลือกถูกมาก เกษตรกรรายย่อย 80% ผสมอาหารสัตว์กันเอง การที่พืชอาหารสัตว์ทุกชนิดมีราคาแพงขึ้นเช่นนี้ก็เดือดร้อนกันหมด เพราะการเลี้ยงหมูหนึ่งตัวมีต้นทุนค่าอาหารถึง 65% แล้ว
ขณะเดียวกัน ฟาร์มหมูหลายแห่งกำลังประสบปัญหาโรคระบาด PRRS ด้วย จึงจำเป็นต้องมีการลงทุนเพื่อป้องกันโรคซึ่งใช้งบสูงมาก ราคาขายก็ไม่ได้ดี เพราะถ้ามีฟาร์มใกล้ๆ เกิดโรค ก็ต้องรีบขายหมูทิ้งในราคาไม่คุ้มทุน ตอนนี้รายย่อยจากที่มีแสนกว่าราย ไม่รู้จะเหลือรอดถึง 20,000 รายหรือไม่
นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ยังเจอน้ำท่วมฟาร์มอีก จึงอยากขอให้รัฐเข้ามาช่วยจัดการในส่วนที่เป็นต้นทุนหลักก่อน นั่นก็คือราคาวัตถุดิบ เพื่อช่วยให้ต้นทุนไม่บานปลายไปกว่านี้ และต้องขอวอนให้ผู้บริโภคเข้าใจด้วยว่าเป็นเพราะปริมาณหมูในท้องตลาดมีน้อยลงจากสถานการณ์ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นทำให้เนื้อหมูปลายทางอาจขยับราคาสูงขึ้นบ้าง
ด้านนายเกรียงศักดิ์ เสรีรัตน์ยืนยง เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จ.ยะลา กล่าวว่า ปัจจุบันผู้เลี้ยงหมูเผชิญความท้าทายมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องโรคระบาดที่ทำให้ปัจจุบันต้องแบกรับต้นทุนด้านการป้องกันโรคในฟาร์มค่อนข้างสูง และขณะนี้ยังต้องประสบปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก ยิ่งทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์สูงขึ้นไปอีกกว่า 20-30% แล้ว แม้ปัจจัยของราคาวัตถุดิบอย่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือกากถั่วเหลืองจะแพงขึ้นจากตลาดโลก แต่ส่วนหนึ่งก็คือผลพวงจากการบริหารจัดการวัตถุดิบอาหารสัตว์ภายในประเทศด้วย
"ข้าวเปลือกมีราคาถูกมากราว 5-6 พันบาทต่อตัน ราคาปลายข้าวสำหรับทำอาหารสัตว์ควรจะอยู่ที่ 7-8 บาทต่อกก. แต่ปัจจุบันปลายข้าวกลับมีราคาถึง 10 กว่าบาท โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือข้าวโพดที่มีการประกันราคารับซื้อให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชขั้นต่ำที่ 8.00 บาท/กก. แต่ไม่มีการกำหนดราคาขั้นสูง ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นถึง 11 บาท ซ้ำเติมต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ ในเมื่อปล่อยราคาข้าวโพดได้แบบนี้ ก็ควรปล่อยราคาขายของฟาร์มตามต้นทุนที่เกิดขึ้นด้วย จึงจะสอดคล้องและเป็นธรรม"