นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบ จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบหลักการแนวทางการขับเคลื่อนการเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ตามที่ ททท.เสนอในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อใช้ในการพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย โดยรัฐและเอกชนร่วมกันลงขัน วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้เกิดการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อการเติบโตที่มีความยั่งยืน
ยังเห็นชอบพลิกโฉมการท่องเที่ยวภูเก็ต เพื่อทำให้ไตรมาส 4 ปีนี้และไตรมาสแรกปี 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ล้านคน เฉลี่ยไม่น้อยกว่าวันละ 5,000 คน สร้างรายได้ 60,000 ล้านบาท ซึ่งต้องให้ ททท. กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ไปร่วมกันพิจารณาปลดล็อกอุปสรรค 8 ประการ ได้แก่ 1.การลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน การตรวจ RT- PCR ก่อนมาและเมื่อถึงสนามบิน หลังจากนั้นให้ตรวจแบบ ATK 2.หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยออนไลน์แบบหมู่คณะ 3.อนุญาตเที่ยวบินพาณิชย์ของรัสเซียให้สามารถเดินทางเข้าสู่ภูเก็ต 4.การผ่อนคลายคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง สำหรับผู้โดยสารเครื่องบิน
5.ลดค่าใช้จ่ายการตรวจ RT-PCR 6.ลดค่าเบี้ยประกันภัย รวมถึงการ On-Top ในรูปแบบ COVID Shield ครอบคลุมการสัมผัสเสี่ยงสูง และฮอลพิเทล รวมทั้งมีกองทุนสนับสนุนการชำระเงินล่วงหน้า 7.การออก Visa on Arrival (VOA) และหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยแบบออนไลน์ หรือ COE Online 8.เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ต้องลงทุนพัฒนาเพื่อพลิกโฉมภูเก็ตสู่สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก.