นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) วันที่ 30 ก.ย.64 คาดว่า จะมีการหารือเรื่องมาตรการพยุงการจ้างงานของเอสเอ็มอี โดยรัฐจะช่วยนายจ้างจ่ายค่าจ้างแรงงาน 50:50 หรือโค-เพย์เมนต์ตามที่เอกชนได้เสนอไป ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการ และช่วยรักษาการจ้างงาน ทำให้ไม่ต้องปลดคนงาน รวมถึงอาจมีการพิจารณามาตรการที่ภาคเอกชนเสนอให้กระทรวงแรงงานนำแรงงานต่างด้าว ที่หมดอายุการทำงานในไทย 300,000-400,000 ราย ให้กลับมาขึ้นทะเบียนใหม่ได้ เพื่อที่จะได้มีแรงงานเข้าสู่ระบบ และรับการฉีดวัคซีน รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคธุรกิจบริการและอุตสาหกรรมได้
ด้านนางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ต.ค. 64 กระทรวงการคลังจะโอนวงเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 รอบที่ 2 เพิ่มเติม จำนวน 1,500 บาท โดยนำไปรวมกับวงเงินสิทธิคงเหลือจากรอบแรกให้อัตโนมัติ หากประชาชนลงทะเบียนใหม่และได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 หลังวันที่ 1 ต.ค.จะได้รับวงเงินสิทธิรวมทั้งสิ้น 3,000 บาท
ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ย.64 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 24.32 ล้านราย จากผู้เข้าร่วมโครงการรวม 27 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 67,468.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 34,333.4 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 33,135.1 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 1,500 บาท ประมาณ 10 ล้านราย สำหรับการใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มผู้ให้บริการฟู้ดดีลิเวอรี จะเริ่มใช่ได้ตั้งแต่ 4 ต.ค.เป็นต้นไป ปัจจุบันมีผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 30,000 รายแล้ว.