ดึงเศรษฐีเงินดิจิทัลเที่ยวไทย ททท.เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ดึงเศรษฐีเงินดิจิทัลเที่ยวไทย ททท.เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับ

Date Time: 29 ก.ย. 2564 07:31 น.

Summary

  • ททท.ผุดแพลตฟอร์มรองรับการใช้จ่ายผ่านเงินดิจิทัล หวังนักลงทุนในตลาดเงินดิจิทัลที่ร่ำรวยจากกำไรจะเข้ามาใช้เงินเที่ยวในไทย ด้านดัชนีผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

ททท.ผุดแพลตฟอร์มรองรับการใช้จ่ายผ่านเงินดิจิทัล หวังนักลงทุนในตลาดเงินดิจิทัลที่ร่ำรวยจากกำไรจะเข้ามาใช้เงินเที่ยวในไทย ด้านดัชนีผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3 อยู่ระดับต่ำมากที่สุดแบบไม่เคยมีมาก่อน แรงงานถูกเลิกจ้างมากกว่า 3 ล้านคน จากแรงงานทั้งระบบ 4.3 ล้านคน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมออกเหรียญดิจิทัลเพื่อใช้จ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพิ่มกำลังซื้อหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมเตรียมหารือกับบริษัทบิทคัพ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub) เพื่อร่วมพัฒนาแฟลตฟอร์มซื้อขายสินค้าท่องเที่ยวแบบเดียวกับ Traveloka (แทรเวลโลกา) ให้เป็นแฟลตฟอร์มของคนไทยใช้จ่ายโดยเหรียญดิจิทัลได้ โดยจะเริ่มดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งเรื่องนี้ต้องหารือกับระดับนโยบายและศึกษาข้อกฎหมายด้วย “ปี 2565 ททท.ยังมีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพกระเป๋าหนักที่ร่ำรวยจากการลงทุนในเงินดิจิทัลเข้าเที่ยวเมืองไทย ก็ต้องเตรียมพัฒนาสินค้าด้านการท่องเที่ยวรองรับเอาไว้ โดยจะพัฒนาแฟลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวที่เป็นของไทย ลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานระบบแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล”

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคัพ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub) กล่าวว่า ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่ติดอันดับ 1 ของโลก ที่เป็นเมืองที่น่าทำงานไปด้วยพักผ่อนไปด้วยหรือ Workation ที่สุด ขณะที่ตลาดเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกเติบโตแบบก้าวกระโดด อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยจึงต้องปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากนี้

ด้าน น.ส.ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3/2564 ที่จัดทำร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ว่า ลดลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนี โดยอยู่ที่ระดับ 7 จากคะแนนเต็ม 200 สะท้อนสถานการณ์การท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ไตรมาสที่ 4/2564 อยู่ที่ระดับ 29 ดีขึ้นกว่าไตรมาสนี้มาก แต่สถานการณ์ท่องเที่ยวยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมากที่สุด และตราบที่คะแนนยังต่ำกว่าระดับ 50 ถือว่าอยู่ในขั้นโคม่าป่วยไอซียู โดยตลอดปี 2564 คาดว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 280,447 คน และมีรายได้ 16,827 ล้านบาท

“ในไตรมาส 3/2564 ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีการเปิดบริการ 51% ขณะที่ 84% ของสถานประกอบการมีพนักงานเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง โดยมีแรงงานที่ออกจากระบบ 71% ประมาณ 3.05 ล้านคน ทั้งถูกเลิกจ้างและเปลี่ยนอาชีพอื่น จากเดิมที่มีแรงงานในระบบอยู่ทั้งหมด 4.3 ล้านคน”

นอกจากนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวในไตรมาสหน้า พบว่า 36% มีแผนเดินทางไปต่างจังหวัด และ 33% มีแผนเดินทางท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่กว่า 44% ยังไม่ตัดสินใจเดินทาง ที่น่าตกใจคือประชาชนกว่า 70% มีรายได้ลดลงเฉลี่ย 40% ของรายได้ที่เคยรับ และ 78% มีภาวะหนี้สิน ดังนั้น การตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในช่วงต่อจากนี้คงเป็นไปได้ยาก นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ลดการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 7 วัน เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะการจะทำให้ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาให้ได้อีก 300,000 คน ในช่วงที่เหลือของปี

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ก.ย.2564 ได้เห็นชอบการขยายระยะเวลาการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) ต่อไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. 2564 นี้ ไปสิ้นสุด 30 ก.ย.2565.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ