คลายล็อกธุรกิจดันเศรษฐกิจฟื้น ททท.ปรับแผนรับนักเที่ยวต่างชาติลดกักตัว 7 วัน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คลายล็อกธุรกิจดันเศรษฐกิจฟื้น ททท.ปรับแผนรับนักเที่ยวต่างชาติลดกักตัว 7 วัน

Date Time: 28 ก.ย. 2564 06:53 น.

Summary

  • หอการค้าไทย คาด ศบค.ผ่อนคลายธุรกิจ ดันมูลค่าใช้สอยทั่วประเทศเดือน ต.ค. พุ่งวันละ 1-1.2 หมื่นล้านบาท ทำเศรษฐกิจปีนี้บวกได้ ด้าน ททท.ปรับแผนตลาด 7+7 เหลือ 4+3 เริ่ม 1 ต.ค.นี้

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

หอการค้าไทย คาด ศบค.ผ่อนคลายธุรกิจ ดันมูลค่าใช้สอยทั่วประเทศเดือน ต.ค. พุ่งวันละ 1-1.2 หมื่นล้านบาท ทำเศรษฐกิจปีนี้บวกได้ ด้าน ททท.ปรับแผนตลาด 7+7 เหลือ 4+3 เริ่ม 1 ต.ค.นี้ หลัง ศบค.ลดกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศเหลือ 7 วัน จากนั้นพื้นที่นำร่องใดพร้อม รับนักเที่ยวต่างประเทศตรงได้เลย

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติให้ผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมต่างๆเพิ่มเติมลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหสถานเป็น 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ ส่งสัญญาณสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ รวมทั้งสะท้อนความสามารถของระบบสาธารณสุข ที่พร้อมจะรับมือกับการแพร่ระบาด

“ประเมินว่า การจับจ่ายใช้สอยทางเศรษฐกิจทั่วประเทศในเดือน ต.ค.นี้ น่าจะเพิ่มเป็น 10,000-12,000 ล้านบาทต่อวัน และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ให้กลับมาเป็นบวกได้ ส่วนการที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันวางแผนเปิดนั้น คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นลำดับแรก และผ่อนคลายให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ จะทำให้ผู้ประกอบการ และประชาชนมั่นใจมากขึ้น เชื่อว่าไตรมาสสุดท้าย ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการกลับมาได้”

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงกรณีที่ ศบค. เห็นชอบให้ลดการกักกันสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ จากเดิม 14 วันเหลือ 7 วัน และปรับแผนให้พื้นที่นำร่องเดิมที่เป็นโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 7+7 Extension ซึ่งเดิมต้องรับนักท่องเที่ยวอยู่ครบ 7 วันในภูเก็ตก่อนว่า ตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค.นี้ จะปรับรูปแบบเป็น 4+3 วันก่อนในช่วงแรก จากนั้นพื้นที่ใดพร้อมและพื้นที่ทำเรื่องยืนยันมา ให้รับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศตรงได้เลย

สำหรับพื้นที่นำร่อง ประกอบด้วย กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลห์ และเพิ่มเติมคลองม่วง ทับแขก) พังงา (เขาหลัก เกาะยาว) จึงเท่ากับพื้นที่นำร่องเหล่านี้ เป็นเหมือนภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่นักท่องเที่ยวที่ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จะไม่ถูกกักตัว และเมื่ออยู่ในพื้นที่ครบ 7 วัน สามารถไปยังพื้นที่อื่นทั่วประเทศได้ เช่นเดียวกับสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า) ที่ ศบค.อนุมัติให้ไม่ต้องกักตัวเหมือนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จากเดิมที่ในโครงการสมุย พลัส โมเดล กำหนดให้ต้องอยู่ในโรงแรม 3 วันแรก และ 4 วันต่อมาถึงออกไปทั่วบริเวณเกาะสมุยได้

“ส่วนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ วันที่ 1-30 พ.ย.นี้ ถ้าพื้นที่ใดพร้อมก็เปิดได้เลย ประกอบด้วย 10 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ กระบี่ พังงา (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก) เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ โดยตัด อ.สัตหีบออกไป) และเพิ่มระนอง (เกาะพยาม) เลย (เชียงคาน) บุรีรัมย์ (อ.เมือง)”

ด้าน น.ส.ชรินทิพย์ ตียาภรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การที่รัฐบาลลดการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 7 วัน และให้พื้นที่นำร่องของกระบี่ รับนักท่องเที่ยวตรงได้นั้น จะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เพราะเดินทางสะดวกมากขึ้น ที่สำคัญขณะนี้เป็นฤดูท่องเที่ยวทะเลของกระบี่ โดยวันที่ 31 ต.ค.นี้ จะมีเที่ยวบินแรกจากสิงคโปร์และมาเลเซียมาลงจอดที่สนามบินกระบี่ และวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะมีเที่ยวบินจากสแกนดิเนเวียมาลงจอด ขณะที่ น.ส.พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท จะกลับมาเปิดให้บริการโรงหนัง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ