นางพรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ในเดือน ส.ค.64 สถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีของขนส่งทางบก ในเขตกรุงเทพมหานคร มีผู้ใช้บริการชำระภาษีจำนวนทั้งสิ้น 485,007 คัน ซึ่งมีแนวโน้มที่เจ้าของรถจะใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นถึง 9,887 คัน เนื่องจากเป็นช่องทางให้บริการที่สะดวก ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้
นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รองลงมาเป็นการให้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) มีผู้ใช้บริการ 90,484 คัน นอกจากนี้ มีการให้บริการชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 จำนวน 290,851 คัน การให้บริการชำระภาษีผ่านทางเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th มีผู้ใช้บริการ 75,267 คัน ให้บริการชำระภาษีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ 1,269 คัน และบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 14,995 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ 902 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน 1,352 คัน
“สถิติการชำระภาษีรถประจำปีที่ผ่านมา เจ้าของรถนิยมใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์มากขึ้นในช่วงโควิดระบาด เป็นผลมาจากการพัฒนาช่องทางชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ให้รองรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ได้ทุกอายุการใช้งาน โดยรถที่ค้างชำระภาษีเกินกว่า 1 ปี หรือรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ให้นำรถเข้าตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์.