ผู้นำจีน-อาเซียนจับมือฟื้นเศรษฐกิจ “ประยุทธ์” ชง 3 แผนร่วมมือ 10 ปี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ผู้นำจีน-อาเซียนจับมือฟื้นเศรษฐกิจ “ประยุทธ์” ชง 3 แผนร่วมมือ 10 ปี

Date Time: 11 ก.ย. 2564 05:37 น.

Summary

  • การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับทุกภาคส่วนในการขยายความร่วมมือที่ใกล้ชิดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมนำเสนอวิสัยทัศน์ของความเป็นหุ้นส่วนทางที่รอบด้านอาเซียน-จีน

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ครั้งที่ 18 (China-ASEAN Expo : CAEXPO) ซึ่งจัดขึ้นที่นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับผู้นำจากประเทศต่างๆ ได้แก่ จีน ลาว บรูไน กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมา ปากีสถาน และเวียดนาม ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับทุกภาคส่วนในการขยายความร่วมมือที่ใกล้ชิดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมนำเสนอวิสัยทัศน์ของความเป็นหุ้นส่วนทางที่รอบด้านอาเซียน-จีน สำหรับทศวรรษต่อไป ดังนี้

1.ทศวรรษแห่งการเสริมสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุข เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ ต้องมีความพร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไทยจะร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อยกระดับขีดความสามารถและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาและความท้าทายด้านสาธารณสุขทุกมิติ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัสที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการจัดตั้งศูนย์การผลิตและแจกจ่ายวัคซีนในประเทศสมาชิกอาเซียน

2.ทศวรรษแห่งการฟื้นฟูและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว ไทยสนับสนุนการยกระดับเขตการค้าเสรี (FTA) อาเซียน-จีน รวมทั้งผลักดันให้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้ ขณะเดียวกัน ไทยจะสานต่อข้อริเริ่มการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่างๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะการปฏิบัติตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (MPAC) กับโครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 (BRI) ซึ่งรวมถึงระเบียงเศรษฐกิจ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศของจีน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่
อุปทานในภูมิภาค พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุน การบริการ และการเดินทางระหว่างกัน อีกทั้งควรพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ สร้างขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ตลาด และเทคโนโลยี เพื่อขยายโอกาสสำหรับเศรษฐกิจฐานรากในภูมิภาคต่อไป

3. ทศวรรษแห่งการเสริมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ โดยอาเซียนและจีนได้กำหนดให้ปี 2564 และ 2565 เป็นปีแห่งความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนพร้อมที่จะเร่งผลักดันความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีน โดยเฉพาะในเรื่องการขจัดความยากจนและความหิวโหยและความร่วมมือใหม่อย่าง BCG หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวทางสู่การฟื้นฟูและการเติบโตอย่างสมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ