กรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันขยับเป้าจีดีพีหลังโควิดพ้นจุดพีก

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันขยับเป้าจีดีพีหลังโควิดพ้นจุดพีก

Date Time: 2 ก.ย. 2564 07:45 น.

Summary

  • กกร.ได้มีมติ เห็นชอบปรับประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ให้ดีขึ้นมาอยู่ในกรอบ ติดลบ 0.5-1% จากก่อนหน้านี้คาดไว้อยู่ในกรอบ ติดลบ 0.5-0%

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร.ได้มีมติ เห็นชอบปรับประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ให้ดีขึ้นมาอยู่ในกรอบ ติดลบ 0.5-1% จากก่อนหน้านี้คาดไว้อยู่ในกรอบ ติดลบ 0.5-0% เนื่องจากช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มีปัจจัยบวกที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย จากแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น และแนวโน้มการติดเชื้อเริ่มผ่อนคลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ กกร.เชื่อว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดผ่านจุดพีก หรือระดับสูงสุดไปแล้ว หากไม่มีการล็อกดาวน์ ไม่มีการปิดโรงงานอุตสาหกรรมอีก ก็ไม่ทำให้ภาคการผลิตอุตสาหกรรม ต้องหยุดชะงักประกอบกับรัฐบาลทำงานเชิงรุกในการควบคุมการแพร่ระบาด มีวัคซีนเข้ามาเพียงพอภายในระยะเวลาที่กำหนดก็จะทำให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวได้ตามที่คาดไว้ แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมาแย่ลงเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย

ขณะเดียวกันในปีหน้าหน่วยงานภาครัฐประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 3-5% เป็นระดับต่ำเกินไป และทำให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังอยู่ต่ำกว่าระดับ ก่อนเกิดการแพร่ระบาดในปี 2562 ส่งผลให้ธุรกิจจำนวนมากยังบอบช้ำ เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจฟื้นตัวกลับมายืนได้ด้วยตัวเองโดยเร็ว รัฐบาลควรกำหนดเป้าการเติบโตที่ท้าทายขึ้นเป็น 6-8% ซึ่งเป็นไปได้ในภาวะที่คนไทยกว่า 50% ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และเห็นว่ารัฐบาลยังจำเป็นต้องใช้กระสุนทางการคลัง จากการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจาก 60% เป็น 70-80% เพื่อทำให้มีเงินเข้ามาเพิ่มเติมอีก 0.7-1.5 ล้านล้านบาท สำหรับสนับสนุนการจ้างงาน และใช้ในมาตรการที่มีแรงขับเคลื่อนกับเศรษฐกิจสูง อย่างมาตรการที่รัฐช่วยออกค่าใช้จ่ายหรือมาตรการค้ำประกันสินเชื่อที่สูงขึ้นและเทียบเคียงกับประเทศอื่นเป็นต้น”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ