“พาณิชย์” วางแผนดันราคาลำไยภาคเหนือ

พาณิชย์ ลุยต่อแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 เตรียมเสริมสภาพคล่องผู้รวบรวมรับซื้อลำไยภาคเหนือ ชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ยื่นแบบเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค.2565 พร้อมอัดมาตรการเสริมยกระดับรายได้เกษตรกร 

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินโครงการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ด้วยการวางแผนการทำงานเชิงรุกรับมือผลผลิตผลไม้ 8 ชนิด ตั้งแต่ก่อนออกสู่ตลาด ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง สับปะรด และลิ้นจี่

ส่งผลให้ราคาผลไม้เหล่านี้ ที่ส่วนใหญ่ออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ช่วงต้นปี และขณะนี้ผลผลิตหมดแล้ว มีเสถียรภาพ และช่วยยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถผลักดันการส่งออกได้ปริมาณมาก แม้มีการระบาดของโควิด-19   

กรมจะเดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อเนื่องสำหรับผลผลิตผลไม้ภาคเหนือ โดยจะเน้นที่ลำไย ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย. เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกลำไยให้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกัน ยังเป็นการช่วยเหลือผู้รวบรวมรับซื้อผลไม้จากเกษตรกร ให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรด้วย  

“กรมได้เตรียมโครงการเสริมสภาพคล่องการรับซื้อผลไม้ไว้แล้วภายใต้กรอบวงเงินรวม 3,330 ล้านบาท โดยจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้รวบรวมรับซื้อผลไม้ในอัตรา 3% ต่อปี ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน แต่ละรายได้จะรับชดเชยกรอบวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท”  

สำหรับผู้รวบรวมผลไม้ ที่สนใจสามารถยื่นแบบขอรับการสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการนี้ได้ โดยมายื่นแบบด้วยตนเอง ณ กองส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร 1 กรมการค้าภายใน ในวันทำการ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น. หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565 หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือเว็บไซต์กรม www.dit.go.th

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับการใช้รวบรวมรับซื้อผลไม้ ภายใต้ โครงการ “สินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร” ของ ธ.ก.ส. อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี วงเงินกู้ไม่เกินรายละ 100 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564-31 มี.ค. 2567 สอบถามรายละเอียดได้ที่ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ หรือโทร. 02-555-0555 หรือเว็บไซต์ www.baac.or.th

ขณะที่ บสย. จะยกเว้นค่าธรรมเนียมหลักประกันตามโครงการ “ค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs สร้างชาติ (PGS 9)” และผู้เข้าร่วมโครงการนี้ ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขโครงการเสริมสภาพคล่องการรับซื้อผลไม้ของกรมการค้าภายใน ยังสามารถขอรับการสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ยจากกรม ได้อีก 3% ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ผู้สนใจศึกษารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ บสย. www.tcg.or.th

นายวัฒนศักย์ กล่าวต่อว่า นอกจากโครงการเสริมสภาพคล่องผู้รวบรวมรับซื้อแล้ว กรมยังมีมาตรการอื่นๆ ในการยกระดับราคาลำไยอีก เช่น ส่งเสริมการขายในประเทศ ผลักดันการส่งออก ขณะนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เร่งหาตลาดส่งออกลำไย รวมถึงจะจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ โดยช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.2564 ส่งออกได้แล้ว 214,694 ตัน มูลค่า 8,263 ล้านบาท  

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่า ปีนี้ ผลผลิตลำไยของไทยโดยรวมมีปริมาณ 1.414 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 19.62% จากปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น ภาคเหนือ 991,244 ตัน เพิ่มขึ้น 21.35% ภาคตะวันออก 385,519 ตัน เพิ่มขึ้น 16.51% และภาคอื่นๆ 37,709 ตัน เพิ่มขึ้น 8.56% โดยราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ ล่าสุดเดือน ส.ค.2564 ลำไยพันธุ์อีดอ สดทั้งช่อ เกรด A กิโลกรัมละ 21.10 บาท