ฟันผู้ค้า “ฟ้าทะลายโจร-ATK” ค้ากำไรเกินควร 11 ราย เจอทั้งจำและปรับ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ฟันผู้ค้า “ฟ้าทะลายโจร-ATK” ค้ากำไรเกินควร 11 ราย เจอทั้งจำและปรับ

Date Time: 14 ส.ค. 2564 06:01 น.

Summary

  • พาณิชย์เชือดผู้ค้า “ยาฟ้าทะลายโจร-เอทีเค” ค้ากำไรเกินควร 11 ราย พบขายเกินกว่าราคาที่แจ้งไว้สูงสุดเกือบ 500% ส่งดำเนินคดีแล้ว พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการ กำหนดราคาขาย “เอทีเค”

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

พาณิชย์เชือดผู้ค้า “ยาฟ้าทะลายโจร-เอทีเค” ค้ากำไรเกินควร 11 ราย พบขายเกินกว่าราคาที่แจ้งไว้สูงสุดเกือบ 500% ส่งดำเนินคดีแล้ว พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการ กำหนดราคาขาย “เอทีเค” แต่ละยี่ห้อ เตรียมเผยแพร่บนเว็บไซต์ www.dit.go.th  ลั่นราคาเอทีเคเฉลี่ยในท้องตลาดอยู่ที่ 250-350 บาท พบใครขายเกินแจ้งสายด่วน 1569 ฟันไม่เลี้ยงแน่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ค้าบางรายที่ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ นำยาฟ้าทะลายโจรมาขายราคาสูงเกินควร หรือค้ากำไรเกินควร โดยพบทั้งสิ้น 10 ราย ขายผ่านลาซาด้า (Lazada) และช้อปปี้ (Shopee) รวมถึงร้านขายยา 1 แห่งที่ขายชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง (เอทีเค) ราคาสูงเกินควร ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ทั้งผู้ค้าที่ค้ากำไรเกินควร และผู้มีอำนาจตามกฎหมายของทั้ง 2 แพลตฟอร์ม โดยมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับทั้ง 11 รายนั้น เป็นการขายยาฟ้า-ทะลายโจรยี่ห้ออภัยภูเบศร 8 ราย โดยขายขนาดบรรจุ 60 แคปซูล ผ่านลาซาด้า สูงถึงขวดละ 349-450 บาท จากราคาที่ผู้ผลิตแจ้งไว้กับกรมการค้าภายในเพียงขวดละ 80 บาท หรือสูงกว่า 336-463%, ยี่ห้อใบห่อ 1 ราย โดยขายผ่านลาซาด้า ขนาดบรรจุ 70 เม็ด ขวดละ 119 บาท สูงกว่าราคาที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ที่ขวดละ 25 บาท หรือสูงกว่า 376% และอีก 1 ราย ยี่ห้อไฟโตแคร์ ขายผ่านช้อปปี้ ขนาดบรรจุ 100 เม็ด ขวดละ 490 บาท สูงกว่าราคาที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ที่ 180 บาท หรือสูงกว่า 172%

นอกจากนี้ ยังมีร้านขายยาแห่งหนึ่งในย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยขายชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง ราคาสูงถึงชุดละ 450 บาท สูงกว่าราคาที่ผู้ผลิตแจ้งไว้กับกรมการค้าภายในที่ชุดละ 350 บาท หรือสูงกว่า 29% ซึ่งมีความผิด
ตามมาตรา 29 เช่นกัน

“กระทรวงพาณิชย์ จะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างจริงจังกับผู้ค้าทั้งยาฟ้าทะลายโจร ชุดตรวจเอทีเค รวมถึงสินคาและบริการอื่นๆ หากพบว่าขายเกินราคาสมควร หรือค้ากำไรเกินควร เพื่อไม่ให้เอาเปรียบประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19”

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ยังมีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 1 ชุด รวม 11 คน จาก 5 หน่วยงาน เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ของเอทีเค และกำหนดมาตรการกำกับดูแลการจำหน่ายเอทีเคให้เป็นธรรมกับผู้บริโภค โดยคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มีรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นรองประธาน ส่วนกรรมการมาจากองค์การเภสัชกรรม กรมศุลกากร กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สบค.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.)

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในเรื่องราคาจำหน่ายเอทีเคในท้องตลาด ขณะนี้ กรมการค้าภายใน ได้แจ้งให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า แจ้งต้นทุนการผลิต การนำเข้า และราคาที่จะตั้งขายมาให้กรมพิจารณา ล่าสุดได้แจ้งเข้ามาแล้ว 10 ยี่ห้อ จากที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 34 ยี่ห้อ โดยผู้ผลิต ผู้นำเข้าได้แจ้งราคาที่จะขายเฉลี่ยที่ชุดละ 250-350 บาท ส่วนยี่ห้อที่เหลือ คณะอนุกรรมการจะพิจารณาราคาขายที่เหมาะสมของแต่ละยี่ห้อต่อไป และจะประกาศราคาแนะนำขายของแต่ละยี่ห้อที่เว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th ส่วนราคายาฟ้าทะลายโจร ได้นำเผยแพร่บนเว็บไซต์แล้ว

“ชุดตรวจเอทีเค ที่วางขายในท้องตลาดขณะนี้ มีประมาณ 10 ยี่ห้อ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ชุดละ 250-350 บาท ส่วนยี่ห้ออื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาราคาขาย ถ้าประชาชนพบเห็นผู้ค้ารายใด ขายราคาสูงเกินกว่านี้ แจ้งมาได้ที่สายด่วนโทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ ถ้าพบค้ากำไรเกินควรจริง จะมีความผิดตามมาตรา 29 มีโทษหนักทั้งจำและปรับ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ