“แห่ซื้อบริจาค” ทำไข่หายเกลี้ยง รัฐขู่เอาผิดคนป่วนราคาดอดซื้อหน้าฟาร์ม

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“แห่ซื้อบริจาค” ทำไข่หายเกลี้ยง รัฐขู่เอาผิดคนป่วนราคาดอดซื้อหน้าฟาร์ม

Date Time: 6 ส.ค. 2564 07:01 น.

Summary

  • แจงคนแห่ซื้อบริจาค–ตุนไว้ที่บ้านรับช่วงล็อกดาวน์ เหตุไข่ไก่ขาดตลาด แถมยังมีคนไทยหัวใสบางกลุ่มทำตัวเป็นพ่อค้าให้ราคาซื้อหน้าฟาร์มสูงกว่าตลาด และเอามาขายแพงกว่าทำกำไร

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

แจงคนแห่ซื้อบริจาค–ตุนไว้ที่บ้านรับช่วงล็อกดาวน์ เหตุไข่ไก่ขาดตลาด แถมยังมีคนไทยหัวใสบางกลุ่มทำตัวเป็นพ่อค้าให้ราคาซื้อหน้าฟาร์มสูงกว่าตลาด และเอามาขายแพงกว่าทำกำไร กรมการค้าภายในระบุ มีความผิดฐานทำราคาปั่นป่วน ใครพบเห็นพฤติกรรมแจ้งเบาะแสได้ พร้อมจี้ผู้เลี้ยงขายให้ห้าง–ตลาดสดก่อน ขณะที่เงินเฟ้อเดือน ก.ค.ยังขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แต่เริ่มชะลอลง

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่ประชาชนไม่สามารถหาซื้อไข่ไก่ได้ในช่วงที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ไข่ไก่ล่าสุดผลผลิตยังคงเข้าสู่ตลาดตามปกติ
วันละ 40 ล้านฟอง เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศ แต่ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณไข่ไก่ในบางพื้นที่ตึงตัว เพราะมีการซื้อเพื่อบริจาคให้โรงพยาบาลต่างๆมากขึ้น ขณะเดียวกัน ประชาชนก็ซื้อตุนเพิ่มขึ้น เพราะมีการทำงานที่บ้าน แต่กรมปศุสัตว์ได้แก้ปัญหาด้วยการให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ยืดอายุแม่ไก่ออกไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้มีผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนบางส่วนฉวยโอกาสทำตัวเป็นพ่อค้าซื้อไข่ไก่จากฟาร์ม โดยให้ราคาดีกว่าฟองละ 3 บาท แล้วนำมาขายในราคาแพงขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้ไข่ไก่ส่วนหนึ่งหายไปแล้ว ยังทำให้สถานการณ์ราคาปั่นป่วนด้วย

“ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ ให้ขายไข่ไก่ให้กับลูกค้าที่เป็นช่องทางขายปกติก่อน เช่น พวกห้างค้าปลีกค้าส่ง ซุปเปอร์ มาร์เกต ตลาดสด ฯลฯ ส่วนผู้ขายรายย่อยที่ตัดไข่หน้าฟาร์ม โดยให้ราคาสูงๆ เพื่อนำไปขายต่อให้ประชาชนราคาแพง อย่าเพิ่งขายให้เพราะจะทำให้ราคาปั่นป่วน ประชาชนเดือดร้อนอีก อย่างไร ก็ตาม ในช่วงนี้ขอให้ประชาชนซื้อในช่องทางขายปกติ เช่น ห้างต่างๆ ราคาขายไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 105-110 บาท”
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มพ่อค้าที่ตัดซื้อไข่หน้าฟาร์มนั้น ได้ประสานผู้เลี้ยงให้แจ้งเบาะแสด้วย หากมีใครมีพฤติกรรมดังกล่าวมาขอซื้อให้แจ้งกรม จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมาย เพราะทำให้สถานการณ์ราคาปั่นป่วน มีโทษปรับไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้เลี้ยงพร้อมให้ความร่วมมือกรมเป็นอย่างดี เพราะถือว่ากลุ่มผู้ค้าเหล่านี้เอาเปรียบผู้เลี้ยงที่ยอมตรึงราคาขายหน้าฟาร์ม เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ซื้อไข่ไก่ในราคาเดิม แต่กลับมาฉวยเอาประโยชน์จากการทำกำไรกับประชาชน

ด้านนายมาโช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ขณะนี้มีพวกตัดไข่หน้าฟาร์มจำนวนหนึ่ง แต่ได้แจ้งให้สมาชิกขายให้กับลูกค้าเจ้าประจำที่ส่วนใหญ่เป็นตลาดสด ห้างต่างๆก่อน อีกทั้งผู้เลี้ยงได้ยืดอายุแม่ไก่ยืนกรงออกไปอีก 1-2 เดือน น่าจะทำให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นได้อีกวันละนับล้านฟอง ส่วนราคาขาย ผู้ผลิตให้ความร่วมมือตรึงราคาหน้าฟาร์มที่ฟองละ 3 บาท และราคาขายปลีกก็น่าจะยังคงเดิม ทั้งนี้ ยืนยันว่าปริมาณไข่ไก่ไม่ขาดแคลนแน่นอน ที่ผ่านมาอาจมีความต้องการเทียมจากการซื้อกักตุนในช่วงโควิด-19 เพราะไข่เป็นสินค้าราคาไม่แพง เก็บง่าย และปรุงอาหารง่าย คาดว่าหลังสารทจีน หรือหลังกลางเดือน ส.ค.นี้ไปแล้ว สถานการณ์ต่างๆจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

วันเดียวกัน นายวิชานัน นิวาตจินดา รอง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ก.ค.64 ว่า เท่ากับ 99.81 เทียบกับเดือน มิ.ย.64 ลดลง 0.12% แต่ถ้าเทียบกับเดือน ก.ค.63 เพิ่มขึ้น 0.45% ซึ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แต่เพิ่มในอัตราที่ชะลอตัวลง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.83% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.64 และเพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.63 ขณะที่เฉลี่ย 7 เดือน เพิ่มขึ้น 0.26% สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อยังคงขยายตัวมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น 29.35% อาหารสดบางชนิด เช่น เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผลไม้สด รวมถึงเครื่องประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืช ซีอิ๊ว พริกแกงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของฐานต่ำ และมีความต้องการเพิ่มขึ้นในบางช่วง ขณะที่ปัจจัยทอนไม่ให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมาจากมาตรการ
ลดค่าครองชีพของรัฐบาล คือ ลดค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ที่ลดแรงกว่าเดือน มิ.ย.64 ทำให้
จ่ายค่าไฟถูกลง และยังลดค่าธรรมเนียมการศึกษาด้วย รวมทั้งการลดลงของสินค้าอาหารสดบางชนิด

“ถ้าไม่มีมาตรการรัฐ ทั้งลดค่าน้ำ ค่าไฟ จะมีผลทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีก 1.3% ถ้าบวก
เข้าไปด้วย จะทำให้เงินเฟ้อเดือน ก.ค.วิ่งไปที่ 1.8% พอมีมาตรการมาช่วยก็ขึ้นไม่มากอย่างที่เห็น ส่วนการคาดการณ์ไตรมาส 3-4 เงินเฟ้อจะอยู่ที่ 1.01% และ 1.90% ภายใต้สมมติฐานรัฐบาลไม่มีมาตรการลดค่าครองชีพเพิ่มเติมแต่ถ้ามีตัวเลขนี้จะลดลงอีก แต่ทั้งปีจะอยู่ที่ 1.18-1.2% หรือยังอยู่ในกรอบ 0.7-1.7%”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ