สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ วอนรัฐชัดเจนในเรื่องการฉีดวัคซีนให้คนงาน กำหนดเวลาที่จะอนุญาตให้ทำงานก่อสร้าง และการขยายอายุสัญญาโครงการ
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวกับไทยรัฐออนไลน์ว่า มาตรการเยียวยาต่างๆ ที่ภาครัฐออกมายังเข้าถึงยาก ช่องทางการติดต่อไม่สะดวกนัก และด้วยความที่ไม่มีความชัดเจนในบางเรื่อง เช่น แนวปฏิบัติ ขั้นตอนการเบิกเงิน ขั้นตอนในการทำงาน จึงทำให้ในทางปฏิบัติยังสะดุดอยู่
เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ บอกอีกว่า ตอนนี้สมาคมฯ กำลังรอคอยความชัดเจนและความคืบหน้าจากรัฐบาลหลายเรื่อง เรื่องแรกคือ การฉีดวัคซีนให้คนงาน ตามที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน บอกว่าจะจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนงานก่อสร้าง แต่จนถึงตอนนี้ หลังจากรัฐบาลสั่งปิดแคมป์คนงานและหยุดงานก่อสร้างมานานเกิน 15 วันแล้ว ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้ฉีดเมื่อใด
เรื่องที่สอง คือ ความชัดเจนเรื่องกำหนดเวลาที่จะอนุญาตให้กลับมาทำงานก่อสร้างได้เมื่อไหร่ ภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลอนุญาตให้บางไซต์งานก่อสร้างที่แคมป์คนงานอยู่ในพื้นที่โครงการ-ไม่ได้เดินทางออกไปข้างนอก คนงานผ่านการตรวจหาเชื้อ มีการจัดการและมีการดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยดีพอสมควรแล้วให้เริ่มกลับมาทำงานได้
“ผมอยากจะวิงวอนว่าช่วยเถอะ เพราะว่าผู้ประกอบการลำบากจริงๆ ภาครัฐเยียวยามาก็จริง แต่เงินที่เยียวยามามันไม่พอ ส่วนคนงานที่ต้องหยุดงาน เขาไม่มีรายได้ และไม่มีความชัดเจนว่าจะทำงานได้เมื่อไหร่ เงินที่รัฐชดเชยมานับว่าน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการประทังชีวิต อยากให้รีบออกมาตรการให้สามารถเดินต่อได้ มาตรการอะไรที่ให้เอกชนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เราอยากให้รีบออกมา เผื่อจะได้ลดภาระของภาครัฐ ผมว่าเงินเยียวยาไม่เพียงพอกับสิ่งที่เสียไป”
“ที่ผมอยากจะเน้นคือ พอไม่มีความชัดเจนเจ็บแล้วมันไม่จบ ซึ่งเราเห็นธุรกิจอื่นเขาก็ลากถูกันมา แต่สำหรับธุรกิจก่อสร้าง เราคิดว่าเรามีคำตอบที่น่าจะพอปฏิบัติได้ เพราะฉะนั้นถ้าเจ็บแล้วอยากจะจบในบางส่วน ก็ช่วยเราหน่อยเถอะ ผมว่าน่าจะช่วยกันได้”
เรื่องที่สาม คือการขอต่ออายุสัญญาและงาน งดเว้นค่าปรับจากเจ้าของโครงการ ทั้งโครงการของภาครัฐและภาคเอกชน เนื่องจากบริษัทก่อสร้างไม่สามารถทำงานได้ การก่อสร้างล่าช้า และอาจจะส่งมอบโครงการไม่ทันตามกำหนดในสัญญา
“เรื่องการปรับและการขยายอายุสัญญา ตอนนี้ไม่มีความชัดเจน ผู้ประกอบการหลายรายยังไม่ได้ขยายอายุสัญญา อยากจะขอให้ภาครัฐช่วยหน่อย ทางสมาคมฯ ได้ส่งเรื่องไปทางหน่วยงานต่างๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็น กรมบัญชีกลาง ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรี คำตอบที่ได้คือ ให้แต่ละหน่วยงานใช้ดุลพินิจ ซึ่งมันกว้างมาก และด้วยระบบราชการ ด้วยกฎหมายที่มีอยู่ ก็ไม่มีใครกล้าใช้ดุลพินิจ”
นายปิยะดิษฐ์ บอกอีกว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างมีมูลค่าคิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี และมีผู้เกี่ยวข้องในซัพพลายเชนจำนวนมาก ตั้งแต่วัสดุ โลจิสติกส์ ไปจนถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หากไม่มีมาตรการที่ชัดเจน กลไกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจก็จะขับเคลื่อนช้า ดังนั้นควรมีความชัดเจนเรื่องนโยบาย ควรมีการหารือและวางแผนร่วมกันระหว่างภาครัฐเอกชน แล้วกำหนดร่วมกันว่าจะให้กลับมาทำงานก่อสร้างได้เมื่อไหร่
“กับดิเวลอปเปอร์ เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เราก็คุยกันตลอด ณ ตอนนี้ผู้ประกอบการก่อสร้างและดิเวลอปเปอร์ก็ได้รับผลกระทบทั้งคู่ ดิเวลอปเปอร์ก็ส่งมอบบ้านให้ลูกค้าไม่ทัน ลูกค้าไม่ได้บ้านตามกำหนด ส่วนธนาคารก็คิดดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ ดิเวลอปเปอร์ก็แบกดอกเบี้ยเงินกู้ และยังต้องจ่ายค่าจ้างลูกน้องอีก ก็เหนื่อยครับ” เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ฉายภาพผลกระทบ.