นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า วันที่ 15 ก.ค.นี้ เกาะสมุยมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว ภายใต้โครงการสมุย พลัส โมเดล ที่มีการเชื่อมโยงไปยังเกาะเต่าและเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งรูปแบบไม่เหมือน ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่นักท่องเที่ยวที่ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จะไม่ถูกกักตัว โดยเกาะสมุยมีข้อปฏิบัติตัวแตกต่าง เช่น ใน 7 วันแรกนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ถูกกำหนดให้พักในโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (ALQ) ก่อน ซึ่งปัจจุบันมี 22 แห่ง รวม 400 ห้อง ฯลฯ และจะรอดูผลของภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ใน 1 เดือนหากไม่มีปัญหาเกาะสมุย จะขอปรับเป็นรูปแบบเดียวกันด้วย
สำหรับการเปิดเกาะสมุย เป็นจุดเริ่มต้นทดลองระบบที่วางไว้ ไม่ได้หวังว่านักท่องเที่ยวจะแห่เข้ามา เพราะมีกฎระเบียบที่วางไว้ป้องกันโควิด-19 ถ้ามีผู้ติดเชื้อเกิน 20 รายต่อสัปดาห์ ก็จะมีการทบทวน ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 1 เดือนแรก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มองไว้ที่ 1,000 คน แต่ภาคเอกชนอยากให้เกินเป้าเท่าตัวไปถึง 2,000 คน รวมๆแล้วตลอดไตรมาส 3 ตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท สิ่งที่คาดหวังคือถ้าไปได้ดี ในไตรมาส 4 มีโอกาสสร้างรายได้ 3,000-6,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับรายได้ครึ่งปีแรกที่ได้จากคนไทยมาเที่ยวสมุย 1,000 ล้านบาท ตลอดทั้งปีนี้เกาะสมุย อาจมีรายได้ที่ 5,000-8,000 ล้านบาท
นายวรพงษ์ วงศ์สุวรรณ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะเต่า กล่าวว่า เกาะเต่ามีการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว 75% ของประชากร มีโรงแรม SHA+รับนักท่องเที่ยวได้ 1,000 ห้อง ลดราคาลงมา 50-60% หวังว่าครึ่งหลังของปีนี้จะมีรายได้ 580 ล้านบาท จากปี 2562 มีนักท่องเที่ยว 200,000 คน มีรายได้ 4,000 ล้านบาท ส่วนปี 2563 เหลือไม่ถึง 5% หรือ 200 ล้านบาท.