เศรษฐกิจโลก-คู่ค้าฟื้นตัว เกื้อหนุนส่งออกไทยปีนี้โตเกินเป้าหมาย 4%

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เศรษฐกิจโลก-คู่ค้าฟื้นตัว เกื้อหนุนส่งออกไทยปีนี้โตเกินเป้าหมาย 4%

Date Time: 8 ก.ค. 2564 06:50 น.

Summary

  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การันตี การส่งออกของประเทศไทย ครึ่งหลังของปีนี้ มีแนวโน้มสดใส หลังเศรษฐกิจโลก-คู่ค้าฟื้น และยังได้ผลดีจากการที่ไทยใช้ดิจิทัล ดันยอดการค้า

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การันตี การส่งออกของประเทศไทย ครึ่งหลังของปีนี้ มีแนวโน้มสดใส หลังเศรษฐกิจโลก-คู่ค้าฟื้น และยังได้ผลดีจากการที่ไทยใช้ดิจิทัล ดันยอดการค้า เชื่อมูลค่าขยายตัวโตเกินเป้าหมาย เป็นพระเอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการส่งออกของประเทศไทยช่วงครึ่งหลังปีนี้ว่า สถานการณ์จะดีขึ้นมาก เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกและประเทศคู่ค้าเริ่มฟื้น หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ทำให้การใช้ชีวิต และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมา อีกทั้งรัฐบาลประเทศต่างๆ ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้กำลังซื้อประชาชนเพิ่มขึ้น และสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น

นอกจากนี้ การส่งออกไทยยังได้รับผลดีจากการที่กรมได้ปรับแนวทางการทำงานส่งเสริม และผลักดันการส่งออกตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ ตั้งแต่เริ่มต้นวิกฤติโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยนำดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในภารกิจงาน ทั้งพัฒนาช่องทางการตลาด พัฒนาผู้ประกอบการ พัฒนาสินค้า และการให้บริการข้อมูล เพื่อให้เดินหน้ากิจกรรมส่งเสริมส่งออกได้ ส่งผลให้สินค้าไทยยังส่งออกได้ดี

ส่งออกปีนี้โตเกินเป้า 4%

กรมยังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขับเคลื่อนนโยบายเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” เพื่อส่งออกสินค้าเกษตรคุณภาพ ใช้นวัตกรรมในการผลิต และมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น, ทำงานร่วมกับภาคเอกชนในรูปคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาด้านการส่งออก, ใช้กลไกการทำงานของทูตพาณิชย์ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ และพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัด ในการทำตลาดร่วมกัน, อบรมผู้ส่งออกให้ค้าขายออนไลน์ได้ สร้างนักรบการค้ารุ่นใหม่ ให้สามารถส่งออกได้อีกด้วย

“แผนงานทั้งหมดนี้ เป็นนโยบาย รมว.พาณิชย์ เราใช้ผลักดันการส่งออกมาตลอด ส่งผลให้ 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) มีรายได้จากการส่งออกมากถึง 108,635 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10.78% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงจะยังคงใช้แผนงานนี้ต่อเนื่อง และจะมีเพิ่มเติม เช่น การทำมินิเอฟทีเอกับไห่หนาน ของจีน, รัฐเตลังกานา อินเดีย, เมืองคยองกี เกาหลีใต้ และเมืองโคฟุ ญี่ปุ่น เพื่อผลักดันการค้าร่วมกัน คาดว่า จะลงนามร่วมกันในเร็วๆนี้ เพื่อทำให้มูลค่าส่งออกในภาพรวมของปีนี้โตกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4%”

สำหรับสินค้าที่ยังส่งออกได้ดี ได้แก่ สินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ยางพาราและผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับคนและสัตว์เลี้ยง, สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์ เตาอบไมโครเวฟเครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์และอุปกรณ์, สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์ ถุงมือยาง และสินค้าอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ เป็นต้น

ปัจจัยเสี่ยงไม่น่าเป็นห่วง

สำหรับตลาดส่งออกที่คาดขยายตัวได้ดี พบว่าแทบจะทุกตลาด เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป (15 ประเทศ) เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย แคนาดา ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เป็นต้น แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ทั้งการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย และบางประเทศกลับมาระบาดใหม่, การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือที่สูงขึ้น, เงินบาทที่ยังแข็งค่าเกินกว่าค่าเงินคู่แข่ง ทำให้สินค้าไทยแพงขึ้น และเสียศักยภาพแข่งขัน เป็นต้น

“ปัจจัยเสี่ยง ไม่น่าห่วงมาก เพราะเราปรับแนวทางการทำงาน และจัดกิจกรรมส่งเสริม ผลักดันการส่งออกครอบคลุมไว้หมดแล้ว ที่จะทำให้การส่งออกไทยไปต่อได้ เพียงแค่คอยมอนิเตอร์ไว้เท่านั้น”

สำหรับการนำดิจิทัลมาใช้ในการทำงาน ที่มีทั้งการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจผ่านออนไลน์ (Online Business Matching), การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริงผ่านออนไลน์ (Virtual Exhibition), การจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบไฮบริด ที่มีทั้งการจัดงานผ่านออนไลน์ ร่วมกับการจัดงานแสดงสินค้าจริง, การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในรูปแบบ Mirror-Mirror โดยส่งตัวอย่างสินค้าไปให้ลูกค้าในต่างประเทศชม และเจรจาซื้อขายผ่านออนไลน์ ฯลฯ ช่วงครึ่งแรกปีนี้ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศสูงถึง 10,152 ล้านบาท

ลุยขายออนไลน์โกยรายได้

ขณะที่ครึ่งหลังของปีนี้ ยังจะจัดงานในลักษณะดังกล่าวอีกหลายครั้ง ในหลายๆสินค้า เช่น อาหารคน-สัตว์เลี้ยง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ชิ้นส่วนยานยนต์, เครื่องมือแพทย์, ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม เป็นต้น ซึ่งจะมีรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก และช่วยผลักดันยอดส่งออกให้ขยายตัวได้มากที่สุด

“กิจกรรมใหม่ๆ ที่มีโอกาส อาทิ งานแสดงสินค้าดิจิทัลคอนเทนต์แบบเสมือนจริง ผ่านออนไลน์ (MOVE) ประสบความสำเร็จมาก ผมคิดว่าไทยอาจจะเป็นประเทศแรกๆ ที่จัดงานในลักษณะนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว และจัดปีนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และอีกงานที่สำเร็จมากคือ คอนเทนต์ วาย โดยจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตคอนเทนต์ วาย ของไทยที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกกับผู้ซื้อในต่างประเทศ สร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาท เราพยายามหาสินค้า และบริการที่มีศักยภาพใหม่ๆ ไปขายตลาดโลก”

นอกจากนี้ อีกงานที่ประสบความสำเร็จสูง คือ การทำตลาดร่วมกันระหว่างพาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ โดยเปิดไลน์กลุ่ม เพื่อให้พาณิชย์จังหวัดได้นำเสนอสินค้าดีในแต่ละจังหวัด และให้ทูตพาณิชย์หาตลาดให้ ที่ผ่านมาขายสินค้าให้กับผู้ผลิตในหลายจังหวัดได้เกือบ 130 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายสินค้า เช่น อุปกรณ์การแพทย์ ขิงดอง เครื่องสำอาง ธัญพืชอบกรอบ เป็นต้น

“ปีนี้ การส่งออกเป็นพระเอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้แน่นอน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไร เราต้องทำทุกทางเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ