ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติให้เยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหาร และเครื่องดื่มพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ นนทบุรี สมุทรสาคร ที่ไม่มีลูกจ้าง จะได้เงิน 3,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
ล่าสุด มีร้านค้าที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯถุงเงิน 1.2 ล้านราย ทั้งที่อยู่ในระบบประกันสังคม และอยู่นอกระบบประกันสังคม และกระทรวงการคลังได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เพื่อให้มีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้น ร้านค้าใดที่ยังไม่สมัคร และยังไม่มีแอปพลิเคชันถุงเงิน สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้จนถึง 31 ก.ค.นี้ เมื่อลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบแล้ว หากอยู่ในพื้นที่ 6 จังหวัดจะได้รับการเยียวยาในกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกด้วย
สำหรับร้านค้าที่ลงทะเบียน การใช้บริการผ่านแอปฯถุงเงิน 1.2 ล้านราย พบว่ามี 200,000 รายที่เป็นร้านค้านอกประกันสังคม ก็จะได้รับความช่วยเหลือเป็นเงิน 3,000 บาทต่อราย ส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีลูกจ้างจะต้องไปลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือน ก.ค.นี้ และจะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน โดยร้านค้าได้รับความช่วยเหลือ 3,000 บาท ลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทย 2,000 บาทต่อคน
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ ผู้สมัครโครงการคนละครึ่งที่ผ่านการตรวจสอบและยืนยันตัวตน 25.50 ล้านคน สามารถใช้จ่ายได้ทันที โดยกระทรวงการคลังจะโอนเงินรอบแรก 1,500 บาท เพื่อใช้จ่ายในเดือน ก.ค.-ก.ย. รอบ 2 โอนให้วันที่ 1 ต.ค. อีก 1,500 บาท เพื่อใช้เดือน ต.ค.-ธ.ค. รวม 3,000 บาท ขณะที่โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ก็เริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยมีผู้มีสิทธิ 420,000 คน.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง