พาณิชย์ลดราคา สินค้า-บริการ ช่วยประชาชนช่วงโควิด-19

“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลังภาคเอกชน เปิดโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 12 Online” นำสินค้า-บริการมาลดสูงสุด 85 เปอร์เซ็นต์ ขายทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค. คาดช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนช่วงวิกฤติโควิดไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท รวมทั้งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 500 ล้านบาท

กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าลดค่าครองชีพช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 30 มิ.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการแถลงข่าวโครงการ พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 12 Online ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ มีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในและภาคเอกชนเข้าร่วมจำนวนมาก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จัดทำโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 12 Online” เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชนซึ่งเป็นการลดราคาสินค้าและบริการทั้งหมดรวม 6 กลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค. คาดจะช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนที่ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท จะมีผลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 500 ล้านบาท

สำหรับสินค้าบริการที่จะลดราคาผ่านแพลต-ฟอร์มออนไลน์ 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มที่ขายสินค้าผ่าน 4 แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง Lazada Shopee Ohlala และ JJ Mall โดยจะลดราคาสินค้าสูงสุด 30 เปอร์เซ็นต์ และ Lazada จะลดค่าจัดส่ง 30 บาท ถ้าซื้อสินค้า 3 ชิ้นขึ้นไปลด 30 บาท หรือซื้อสินค้าครบ 99 บาทขึ้นไปจะลดค่าจัดส่ง 40 บาท 2.กลุ่มให้บริการจัดส่งสินค้า ประกอบด้วย Kerry Grab Lalamove DHL และไปรษณีย์ไทย โดยจะลดค่าบริการจัด

ส่งสูงสุด 77 เปอร์เซ็นต์ และลดค่ากล่อง 38 เปอร์เซ็นต์ 3.กลุ่มอาหารฟาสต์ฟู้ด มีบริษัทเข้าร่วม 4 บริษัท Burger King Pizza Hut The Pizza Company และ KFC โดยจะลดค่าอาหารสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ มีอาหารทั้งหมด 23 รายการ 4.กลุ่มให้บริการอินเตอร์เน็ต 4 ราย คือ ทรู เอไอเอส ดีแทค และบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (เอ็นที) โดยทรู เอไอเอส และดีแทค จะลดค่าบริการโทรศัพท์มือถือเหลือ 75 บาทต่อเดือน ส่วนเอ็นที จะลดค่าบริการเน็ตบ้านฟรี 3 เดือน ส่วนเดือนถัดไปคิดเดือนละ 300 บาท

5.กลุ่มอุปกรณ์และสื่อการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย ทรู เอไอเอส และดีแทค โดยทั้ง 3 บริษัทนี้จะลดราคาโทรศัพท์มือถือ 15 รายการลดสูงสุด 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแท็บเล็ตจะลดราคา 27 รายการ ลดสูงสุด 68 เปอร์เซ็นต์ และ 6.จะลดราคาสินค้าในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เกต และร้านสะดวกซื้อ 16 ห้าง ประกอบด้วย แม็คโคร เดอะ มอลล์ เซ็นทรัล บิ๊กซี ท็อปส์ ซีพี เฟรชมาร์ท เทสโก้โลตัส ฟู้ดแลนด์, แมกซ์ แวลู บีทูเอส, ออฟฟิศ เมต เพาเวอร์ บาย เซเว่น-อีเลฟเว่น และวัตสัน แต่ต้องซื้อผ่านระบบออนไลน์ของแต่ละห้างสินค้าที่จะลดราคามีทั้งหมด 11 หมวด 12,600 รายการ ลดราคาสูงสุด 85 เปอร์เซ็นต์

สำหรับสินค้าทั้ง 11 หมวด ประกอบด้วย 1.อาหารและเครื่องดื่ม 2.อาหารสำเร็จรูปปรุงสำเร็จแช่แข็ง 3.ซอสปรุงรส 4.ของใช้ประจำวัน 5.ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย 6.ผลิตภัณฑ์ซักล้าง 7.เครื่องใช้ไฟฟ้า 8.เครื่องสำอาง 9.เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน 10.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ 11. อื่นๆ อาทิ เสื้อผ้า เครื่องครัว เป็นต้น

“กระทรวงพาณิชย์ดำเนินโครงการนี้มาแล้ว 11 ลอต สามารถช่วยลดภาระค่าของชีพให้กับประชาชนได้จำนวนมาก แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนจำนวนมากต้องกักตัวอยู่กับบ้าน ไม่สะดวกออกไปจับจ่ายใช้สอยนอกบ้าน กระทรวงพาณิชย์พิจารณา หากเข้ามามีส่วนร่วมมือกับภาคเอกชนช่วยลดราคาสินค้าและบริการให้ประชาชน ให้ซื้อสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ได้ในราคาพิเศษจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคทุกคน รวมทั้งเป็นประโยชน์กับภาคเอกชนด้วย เป็นที่มาของโครงการนี้” นายจุรินทร์กล่าว