ธุรกิจท่องเที่ยวมีความหวังรอคอยที่จะเปิดประเทศใน 120 วัน

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า มาตรการกึ่งล็อกดาวน์ที่ให้มีการหยุดงานก่อสร้าง โดยเน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่อย่างน้อย 30 วัน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร รวมถึงการอนุญาตให้จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2564 นั้น อาจส่งผลกระทบเป็นเม็ดเงินราว 40,000 ล้านบาท หรือ 0.25% ของจีดีพี โดยมาตรการเยียวยาของภาครัฐมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเหตุการณ์ลากยาวออกไปหรือจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันไม่ลดลงตามที่คาด ก็มีความเสี่ยงที่มูลค่าความเสียหายจะมากขึ้นและครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างมากขึ้น

ด้าน น.ส.ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะ ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ทำให้ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการเปิดบริการปกติ 50% ปิดกิจการชั่วคราว 36% ปิดกิจการถาวร 4% ขณะที่ธุรกิจขนส่งทั้งรถและเรือ เปิดบริการ 85% แต่ไม่มีคนใช้หรือใช้น้อย

ส่วนรายได้ของธุรกิจนั้น พบว่ากว่า 75% ของสถานประกอบการ มีรายได้ไม่เกิน 10% จากภาวะปกติ อีกทั้ง 68% มีจำนวนพนักงานเหลือไม่ถึงครึ่ง ปรับลดค่าจ้างและเงินเดือนลงเหลือ 65% จากไตรมาสก่อนที่ได้ 70% โดย 60% ของสถานประกอบการท่องเที่ยวที่ยังเปิดอยู่ จ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่พนักงานไม่เกิน 50% จากที่เคยจ่าย และสถานประกอบการที่ยังเปิดบริการ 74% มีทุน สำรองให้ใช้ได้อีกไม่เกิน 6 เดือน หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นจะเหลืออยู่รอดราว 13% ของทั้งประเทศเท่านั้น “การจ้างงานในไตรมาสที่ 2 สถานประกอบการเหลือพนักงาน 51% คือจากแรงงาน 4.2 ล้านคน ตอนนี้ถูกให้ออกจากงานไป 49% หรือประมาณ 2 ล้านคนแล้ว”

นายวิชิต ประกอบโกศล รองประธาน สทท. กล่าวว่า ในเดือน ต.ค.นี้ จีนจะให้คนจีนออกเที่ยวนอกประเทศได้ จึงมองว่าเป็นโอกาสของไทยที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนในเดือน ต.ค. ตรงกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่จะเปิดประเทศใน 120 วัน ซึ่งทันทีที่นายกฯพูดเรื่องนี้ ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวมีความหวัง และเรียกพนักงานกลับมาเพื่อเตรียมตัวธุรกิจล่วงหน้า 2-3 เดือน พร้อมกันนี้ได้ตั้งสมมติฐานใน 4 กรณี ได้แก่ 1. เปิดรับนักท่องเที่ยว 10 จังหวัด และมีนักท่องเที่ยวจากจีนจะมีนัก ท่องเที่ยวเข้ามาในไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.) 3 ล้านคน รวมรายได้ 212,000 ล้านบาท กรณีที่ 2 เปิด 10 จังหวัด แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 2 ล้านคน สร้างรายได้ 152,000 ล้านบาท กรณีที่ 3 เปิดประเทศได้ 9 จังหวัดยกเว้นกรุงเทพฯที่อาจมีการระบาดโควิด-19 และมีนักท่องเที่ยวจีน จะมีนักท่องเที่ยวมาไทยรวม 1.4 ล้านคน สร้างรายได้ 107,000 ล้านบาท และกรณีที่ 4 เปิด 9 จังหวัด โดยไม่มีนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 1 ล้านคน สร้างรายได้ 83,000 ล้านบาท.