นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงจะสรุปแผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาประกอบจัดทำแผนพลังงานแห่งชาติ (National Energy Plan) ที่จะเสนอกรอบเบื้องต้นให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาได้ในเดือน มิ.ย.- ก.ค.นี้ จากนั้นจะเปิดรับฟังความคิดเห็น และคาดว่าจะประกาศใช้แผนพลังงานแห่งชาติได้ในเดือน ก.ย.นี้
“แนวทางดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศไทยมุ่งหน้าสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น และสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน (RE) ก็จะเพิ่มขึ้น โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ต้องไม่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน เนื่องจากไม่ตอบโจทย์การลดโลกร้อน ขณะที่สัดส่วนของพลังงานหมุนเวียน (RE) จะเพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่กำหนดไว้ 30% โดยจะเป็นสัดส่วนเท่าใด จะรอข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง และ RE ส่วนหนึ่งจะเป็นการส่งเสริมการลงทุน การส่งออก เพราะปัจจุบันหลายประเทศเริ่มมีเงื่อนไขทางการค้า ที่มีการตรวจสอบย้อนหลังว่าใช้พลังงานสะอาดหรือไม่ ทำให้การลงทุนขณะนี้ ต้องการพลังงานสะอาด 100% มากขึ้น เช่น พลังงานชีวมวล, ชีวภาพ, โซลาร์ฟาร์ม, ขยะ รวมถึงการซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากประเทศลาว
สำหรับแผนพลังงานชาติในเรื่องของน้ำมัน ก็จะต้องดูเรื่องของไฮโดรเจนที่เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น รวมถึงเมื่อโรงกลั่นน้ำมันที่มีการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานยูโร 5 แล้ว จะไปต่ออย่างไรในระยะยาว เมื่อได้แผนพลังงานแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว จะนำไปสู่การวางแผนพลังงานที่เป็นแผนปฏิบัติการลงรายละเอียดให้เป็นไปตามเป้าหลัก ได้แก่ แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่หรือ PDP 2022.