จ้างงานเด็กจบใหม่สู้พิษโควิด รัฐเปิดรับ "พนักงานราชการเฉพาะกิจ" หมื่นอัตรา

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

จ้างงานเด็กจบใหม่สู้พิษโควิด รัฐเปิดรับ "พนักงานราชการเฉพาะกิจ" หมื่นอัตรา

Date Time: 9 มิ.ย. 2564 05:50 น.

Summary

  • ครม.ไฟเขียวใช้งบกลาง 2,254 ล้านบาท จ้างเด็กปริญญาตรีจบใหม่เป็นพนักงานราชการเฉพาะกิจ 10,000 อัตรา ให้ทำงาน 1 ปี ไม่มีต่อเวลา ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

Latest

“เจ้าสัวธนินท์” มองโลก มองธุรกิจ เชื่อมือ รัฐบาล ดันไทยเป็น “ฮับการเงิน” ปลุกผู้ค้าก้าวทัน AI-เทคฯ


ครม.ไฟเขียวใช้งบกลาง 2,254 ล้านบาท จ้างเด็กปริญญาตรีจบใหม่เป็นพนักงานราชการเฉพาะกิจ 10,000 อัตรา ให้ทำงาน 1 ปี ไม่มีต่อเวลา ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แจงจะเร่งจ้างให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่ ครม.อนุมัติงบกู้ 1 ล้านล้านบาท ช่วยจัดหาวัคซีน และโครงการอื่นอีก 3,210 ล้านบาท ส่งเงินเหลือเงินกู้ก้นถุงแค่ 15,961 ล้านบาท

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่า ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้มีการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจ 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นวงเงินกว่า 2,200 ล้านบาท โดยจะเปิดรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่จบใหม่ จัดสรรอัตราเข้าสู่หน่วยงานราชการที่มีภารกิจสำคัญและเร่งด่วนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือน มีสัญญาจ้างงานไม่เกินหนึ่งปี ได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าพนักงานราชการปกติ รวมถึงเงินประกันสังคมด้วย ถือเป็นมาตรการหนึ่งที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เรียกว่าได้เข้าเป็นพนักงานราชการเฉพาะกิจ

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 2,254 ล้านบาท เพื่อจ้างพนักงานราชการรวม 10,000 อัตรา โดยรัฐบาลให้ค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือน และรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 750 บาท และเงินสมทบเข้ากองทุนทดแทนเดือนละ 36 บาท ให้ด้วย โดยจะได้สิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับพนักงานราชการปกติ ยกเว้นสิทธิการลาอุปสมบท หรือประกอบพิธีฮัจญ์ ระยะเวลาจ้างงานไม่เกิน 1 ปี นับจากวันทำสัญญาหรือไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.2565 ให้เร่งจ้างให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.2564 และไม่มีการต่อสัญญาจ้าง แต่หากระหว่างปีว่าลงให้จ้างคนใหม่ได้

ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตให้รีบการสรรหาบุคคลให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. และให้พิจารณาคุณสมบัติผู้ที่มีทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสอดคล้องกับนโยบายเวิร์ค ฟอร์ม โฮมของรัฐบาล โดยมีวิธีการสรรหาวิธีใดใดวิธีหนึ่งหรือหลายวิธี เช่น สอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ การทดสอบการปฏิบัติและพิจารณาแฟ้มผลงาน โดยให้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้สมัครหน่วยงานที่จะทำการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจ

สำหรับกระทรวงที่มีความต้องการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจ รวม 10,000 อัตรา ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง 1,045 คน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1,644 คน กระทรวงคมนาคม 546 คน กระทรวงมหาดไทย 1,218 คน กระทรวงยุติธรรม 505 ราย นอกจากนี้ ต้องการกระทรวงละ 406 คน ประกอบด้วย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วันเดียวกันนี้ ยังอนุมัติตามคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ 7 โครงการ วงเงิน 3,210 ล้านบาท ซึ่งทำให้วงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในขณะนี้คงเหลือ 15,961 ล้านบาทเท่านั้น ประกอบด้วย 1.โครงการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินจากโควิด-19 ของกรมการแพทย์ 101 ล้านบาท 2.โครงการยกระดับหน่วยบริการรองรับการระบาดของโควิด-19 ของกรมอนามัย 128 ล้านบาท 3.โครงการจัดหาวัสดุครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ของกรมสุขภาพจิต 54 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการเป็นของกระทรวงสาธารณสุข

4.อนุมัติให้กรมควบคุมโรค ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการจัดหาวัคซีน สำหรับให้บริการประชาชนในประเทศไทยเพิ่มเติม 35 ล้านโดส จากเดิม 5 เดือน (พ.ค.-ก.ย.2564) เป็น 7 เดือน (มิ.ย.-ธ.ค.2564) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน 5.อนุมัติโครงการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร ของกรมทรัพยากรน้ำ กรอบวงเงิน 1,826 ล้านบาท 6.อนุมัติโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ กรอบวงเงิน 601 ล้านบาท และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบกระจายน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ 497 ล้านบาทของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล รวม 1,099 ล้านบาท 7.อนุมัติให้จังหวัดยโสธรเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบผสมผสานโดยจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในไร่นา โดยเพิ่มพื้นที่หมู่บ้านดำเนินการจากเดิม 12 หมู่บ้าน เป็น 13 หมู่บ้าน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ