นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการขยายระยะเวลาบังคับใช้อัตราภาษีตามปริมาณน้ำตาลระยะที่ 3 ออกไป 1 ปี ไปสิ้นสุดในเดือน ต.ค.2565 จากเดิมสิ้นสุดในเดือน ต.ค.2564 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและช่วยฟื้นฟูเยียวยาผู้ประกอบอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“กรมสรรพสามิตได้เริ่มจัดเก็บภาษีตามปริมาณน้ำตาลในสินค้าเครื่องดื่มมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีการปรับสูตรลดปริมาณน้ำตาลเพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งตามแผนงานเดือน ต.ค.2564 นี้จะมีการปรับเพิ่มอัตราภาษี ทำให้เครื่องดื่มส่วนใหญ่ที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำตาล 10 กรัม ถึง 14 กรัม เสียภาษีตามปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ส่งผลให้เครื่องดื่มปรับราคาสูงขึ้น 10% แต่เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย”
นายลวรณกล่าวต่อว่า วิกฤติโควิดที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการขยายเวลาบังคับใช้อัตราภาษีตามปริมาณน้ำตาลระยะที่ 3 ออกไป 1 ปี จะไม่ทำให้ผู้บริโภคมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากราคาเครื่องดื่มที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยฟื้นฟูเยียวยาผู้ประกอบอุตสาหกรรมเครื่องดื่มอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชะลอปรับขึ้นภาษีความหวานครั้งนี้จะทำให้อัตราภาษีความหวานที่ผสมเครื่องดื่ม ซึ่งจะใช้วันที่ 1 ต.ค.64-30 ก.ย.65 ยังคงใช้อัตราเดิมเท่ากับปีนี้ อาทิ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 6-8 กรัมต่อ100 มิลลิลิตร จะเสียภาษีที่ 0.10 บาทต่อลิตร.