โควิดรอบ 3 ทำร้านอาหารปิดกิจการเพียบ วอน บิ๊กตู่ ช่วยผู้ประกอบการด่วน

ชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ร่อนหนังสือถึง บิ๊กตู่ โปรดช่วยเหลือร้านอาหารขนาดกลาง และขนาดเล็ก หลังโควิดรอบ 3 ทำกิจการแย่หนัก ร้านไหนสายป่านไม่ยาวพอต้องปิดกิจการ แบกต้นทุนไม่ไหว

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้พิจารณาช่วยเหลือและเยียวยาธุรกิจร้านอาหาร SME และร้านอาหารขนาดเล็กโดยด่วน

โดยจดหมายดังกล่าวระบุว่า ตั้งแต่โควิด-19 ระบาดรอบที่ 3 ผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมากไม่สามารถขายในรูปแบบออนไลน์ได้ ตั้งแต่ร้านเล็กๆ ไปจนถึงร้านภัตตาคารร้านอาหารใหญ่ๆ และจากจำนวนที่นั่ง 25% ไม่สอดคล้องกับต้นทุนในการเปิดร้านให้นั่ง

นายสรเทพ ระบุว่า หากนายกรัฐมนตรี ไม่ลงมากำกับดูแลเองเพื่อออกมาตราการช่วยเหลือให้ตรงจุดเพื่อช่วยประคับประคองให้ธุรกิจร้านอาหารทั้งประเทศโดยเฉพาะใน กทม. ตามข้อเสนอจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 นี้ มีหวัง ธุรกิจร้านอาหารในกลุ่ม SME ได้ตายทั้งระบบแน่ๆ ซึ่งสถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบัน กำลังจะเป็นอีกกลุ่มที่ร่วงโรยไปตามธุรกิจบริการอื่นๆ อย่าง โรงแรม สปา ร้านนวด เนื่องจากการดำเนินธุรกิจในรูปแบบปกติไม่ได้

จากการที่ได้หารือกับผู้ประกอบการร้านอาหารหลายๆ ที่ ในช่วงตลอดเดือนที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นการประกาศปิดตัวของร้านธรรมดา ร้านชื่อดัง ในหลายจังหวัดกันบ้างแล้ว ผลกระทบเรื่องนี้ เป็นผลของแรงกระเพื่อมจากการที่สายป่านเริ่มขาดกัน การปิดกิจการ ไม่ใช่เหตุผลแค่เงินสำรองหมดหรือใกล้หมด แต่เกิดจากการที่มองไม่เห็นว่า ข้างหน้าเราจะแก้เกมต่ออย่างไร

ทั้งนี้ เพราะรัฐบาลไม่มีท่าทีจะสนใจดูแลในภาคธุรกิจร้านอาหารเลยก่อนที่แรงกระเพื่อมนี้ จะส่งผลเป็น คลื่นยักษ์ ที่กวาดผู้ประกอบการร้านอาหารให้ล้มหายตายจากไปอีกจำนวนมาก รัฐควรจะรีบมีการสนับสนุนในด้านอื่นๆ เพิ่มเติมให้อีก ดังข้อเสนอในหนังสือเปิดผนึกฉบับนี้

"เรื่องเหล่านี้ เขียนขึ้นมาเพื่อเป็นเสียงให้กับผู้ประกอบการทั้งหลาย ในฐานะที่ผมเองก็เป็นผู้ประกอบการ ถึงแม้พอจะรับมือกับการปิดเมืองได้บ้าง แต่ก็บาดเจ็บสาหัส แผลเริ่มลาม คงอยู่ได้อีกไม่นานแน่นอน แล้วรายเล็กรายน้อยจะบาดเจ็บกันขนาดไหน อยากให้นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ ให้ช่วยหันมาดูแลอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจ ที่สร้าง GDP ให้กับประเทศปีละ 400,000 ล้านบาท หรือ 2.5% ของ GDP และสร้างงานให้คนไทยเกือบ 5 แสนคนด้วยครับ"