โครงการ "Hua Hin Recharge" ฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวคืบหน้า ตามแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วมาหัวหินไม่ต้องกักตัว พร้อมผลักดันฉีดวัคซีนคนในพื้นที่รองรับ
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการด้านฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทยหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาดยังคงเดินหน้าต่อเนื่องควบคู่ไปกับการหยุดยั้งการแพร่ระบาดและการฉีกวัคซีนโควิด-19 ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 พิจารณาเห็นชอบ ผ่อนคลายพื้นที่มีศักยภาพ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี กรุงเทพฯ และบุรีรัมย์ เป็นพื้นที่นำร่อง เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 และมีใบรับรอง สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัวได้ตั้งแต่ที่ 1 ต.ค.2564 เป็นต้นไป เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่และภาพรวมประเทศ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงหลักการพิจารณาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นแหล่งพักผ่อนสำคัญของทั้งคนไทยและต่างชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสุขภาพ และเชื่อมโยงกับ จ.เพชรบุรีและกรุงเทพฯ ปัจจัยหลักที่จะทำให้การดำเนินการตามแผนสำเร็จได้ คือ ประชาชนและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวทุกพื้นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 70% ที่ประชุมจึงได้มอบหมายหน่วยงานเกี่ยวข้องประสาน เพื่อเตรียมความพร้อมกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้เป็นไปตามแผน
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังเห็นชอบสนับสนุนและผลักดันฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่บุคลากรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยให้ถือเป็นบุคลากรด่านหน้าต้องได้รับวัคซีนโดยเร็วในทุกจังหวัด เพื่อรองรับนโยบายเปิดประเทศ รวมทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งหลังจากนี้จะนำข้อเสนอที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว เสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ภายในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาต่อไป
ด้าน นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทย ในฐานะหนึ่งในหัวหน้าคณะทำงานโครงการ "Hua Hin Recharge" กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเดินหน้าโครงการ Hua Hin Recharge เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในหัวหิน โครงการนี้เป็นความร่วมมือของภาครัฐ การท่องเที่ยว โรงพยาบาล สาธารณสุขและภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการในพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหิน มุ่งหวังให้ภาครัฐเร่งจัดหาวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและบุคลากรภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ 350,000 โดส เพื่อเริ่มฉีดเข็มแรกภายในเดือน มิ.ย.นี้ โดยมีเป้าหมายให้พื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินเป็นพื้นที่นำร่องต่อไปที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบถ้วน สามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัวได้ตั้งแต่ที่ 1 ต.ค.2564 เป็นต้นไป เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่และในภาพรวมของประเทศ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ถูกเสนอต่อนายอนุทิน เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2564 และเสนอต่อนายพิพัฒน์เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2564 โดยให้ขยายผลครอบคลุมพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
"ในฐานะตัวแทนคณะทำงาน Hua Hin Recharge พวกเรามีความยินดีอย่างมากที่ภาครัฐให้ความสนใจและรับฟังโครงการ จนนำมาซึ่งการเดินหน้าจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชนและบุคลากรในพื้นที่อย่างเร่งด่วนและเพียงพอต่อการเปิดเมืองหัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง ให้ทันไตรมาสที่ 4 นี้ คาดว่าหากเป็นไปตามเป้าหมาย ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 หัวหินจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท นับเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประกอบการและธุรกิจในทุกภาคส่วน รวมถึงการจ้างงานเกือบ 100,000 คน" นายกรด กล่าว
นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ และหนึ่งในหัวหน้าคณะทำงานโครงการฯ กล่าวว่า ขณะนี้ สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เดินหน้าให้ข้อมูลและเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยได้เปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม สำหรับผู้เป็นประชาชนตามเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ที่อายุไม่ถึง 60 ปี แต่มีโรคใน 7 โรค รวมถึงประชาชนอาศัย หรือทำงานอยู่ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นกลุ่มเฝ้ารอฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีประชาชนมาลงทะเบียนจำนวนมากขึ้น.