ชงเพิ่ม "หัวหิน" เปิดรับต่างชาติ ดีเดย์ 1 ต.ค. อ้อนขอฉีดวัคซีนก่อน 3.5 แสนโดส

“หัวหิน รีชาร์จ” คนหัวหินทั้งภาครัฐเอกชนรวมตัว ขอเพิ่ม “หัวหิน” เป็นอีกพื้นที่นำร่องเปิดรับต่างชาติเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว ดีเดย์ 1 ต.ค.64 ตั้งเป้าต่างชาติเข้ามา 1 แสนคน สร้างรายได้ 1.2 พันล้านบาท แต่ขอวัคซีน 3 แสนโดสฉีดให้คนในพื้นที่ก่อนตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ ส่วนคลังเตรียมเงินแก้ปัญหาโควิด-19 แล้วกว่า 3 แสนล้านบาท

นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมสปาไทย ในฐานะประธานโครงการภาคเอกชนหัวหิน รีชาร์จ เปิดเผยภายหลังนำคณะทำงานหัวหิน รีชาร์จ ประกอบด้วยภาครัฐ และเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวในเทศบาลหัวหิน เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประชุมร่วมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ได้เสนอให้รัฐบาลเพิ่มเทศบาลเมืองหัวหิน เฉพาะพื้นที่ 86.36 ตารางกิโลเมตร ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นอีกหนึ่งพื้นที่นำร่องเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โดส และมีผลการตรวจเป็นลบให้เดินทางท่องเที่ยวที่หัวหินได้โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มวันที่ 1 ต.ค.64 เบื้องต้นตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 100,000 คน สร้างรายได้ 1,200 ล้านบาท ซึ่ง รมว.การท่องเที่ยว จะนำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 6 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ ตามแผนเดิมของรัฐบาล หลังจากทำภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้าภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัวเริ่มไตรมาส 3 หรือวันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไปแล้ว จากนั้นไตรมาส 4 หรือวันที่ 1 ต.ค.64 ให้มีพื้นที่นำร่องเพิ่ม ประกอบด้วย พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ พังงา เกาะสมุย โดยเมื่ออยู่ครบ 7 วันให้ไปท่องเที่ยวพื้นที่อื่นได้ จึงเสนอขอเพิ่มพื้นที่หัวหินเข้าไปด้วย แต่จะต้องจัดหาวัคซีนทั้งหมด 353,498 โดสฉีดให้คนในเทศบาลหัวหิน ซึ่งได้เสนอ รมว.การท่องเที่ยว ให้เริ่มการฉีดเข็มแรกวันที่ 1 มิ.ย.นี้ จำนวน 176,749 โดส และฉีดเข็มที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.64 เพื่อให้ทันต่อการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ต.ค.64 ถ้าฉีดได้ตามแผน จะช่วยเหลือภาคธุรกิจ พนักงาน และแรงงานในธุรกิจบริการกว่า 89,000 คนในพื้นที่ให้มีรายได้ จากขณะนี้ท่องเที่ยวซบเซามาก

“รมว.การท่องเที่ยวฯตอบรับที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้ และขอให้คณะทำงานหัวหิน รีชาร์จประชุมกับโรงแรมที่มีความพร้อม ล่าสุดมี 182 โรงแรม ขอให้ติดต่อกับลูกค้าเก่าที่เป็นชาวต่างชาติ เพื่อสำรวจความต้องการเข้ามาประเทศไทย รวมทั้งนายพิพัฒน์มองว่าหัวหินเป็นไข่แดง จึงให้คำแนะนำขยายพื้นที่เปิดไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวโดยรอบได้แก่ ชะอำและปราณบุรี เพื่อให้ครอบคลุมการป้องกันการแพร่ระบาด และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาค จึงต้องสำรวจความต้องการวัคซีนเพิ่มด้วย ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.64 และได้ตอบรับแผนหัวหิน รีชาร์จแล้ว และรับจะจัดหาวัคซีนให้ด้วย”

ด้าน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เตรียมงบประมาณสำหรับแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ไว้แล้วกว่า 300,000 ล้านบาท โดยจะพิจารณาใช้มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ลดภาระของประชาชน และกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศในระยะต่อไป สำหรับความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 26 เม.ย.64 มีผู้ได้รับสิทธิรวม 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 202,173 ล้านบาท โดยประชาชนที่ยังมีวงเงินเราชนะเหลืออยู่ สามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้.