นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานของ ธ.ก.ส.ในปีนี้ว่า แนวทางของ ธ.ก.ส.ของปีบัญชี 2564 เป็นแนวทางที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของลูกค้าของธนาคารเราคงเข้าไปดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของคุณภาพหนี้ การเติมเต็มในเรื่องของความรู้ รวมถึงการหาภาคีเครือข่ายเข้าไปมีส่วนร่วมให้กับทางลูกค้าของทางธนาคารเอง สามารถดำเนินการธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนขององค์กร ธ.ก.ส. คงจะใช้ในส่วนของกระบวนการ ในเรื่องของการที่เป็น high-performance organization โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้เครื่องมือที่เรียกว่า duo transformation เนื่องจาก ธ.ก.ส.ยังมีลูกค้ากลุ่มเดิมที่ต้องดูแลในลักษณะที่เป็น traditional bank กับการหาโอกาสของลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่ ธ.ก.ส.จะขับเคลื่อนเข้าไปสู่ในส่วนของ Digital Banking ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ ดิจิทัลต่างๆ ในส่วนของ Digital Lending เรื่องของตัวเงินฝาก สลาก รวมถึงการใช้ช่องทาง ของ ธ.ก.ส.ไม่ว่าจะเป็น A mobile หรือในส่วนของ BAAC Connect เป็นช่องทางหนึ่งในการให้บริการลูกค้าของ ธ.ก.ส. คาดว่าในปีบัญชี 2564 เราคงไม่เน้นในเรื่องของการสร้าง growth แต่เราจะเน้นในเรื่องคุณภาพของหนี้ ทำอย่างไรให้เกษตรกรเองมีความสามารถให้ชำระหนี้ได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของเงินฝากเองเราคงจะมองในแง่ของสภาพคล่องที่จะเหมาะสมกับการบริหารจัดการของธนาคาร ซึ่งเราอาจจะไม่มีเป้าเงินฝากมากมายนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญคือ กระบวนการที่ทางลูกค้าเรา ต้องการปรับเปลี่ยนการผลิต เพื่อไปสู่การเกษตรอย่างยั่งยืน เรามีโครงการรองรับอยู่หลายโครงการ ไม่ว่าจะในส่วนของโครงการ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ โครงการเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต
นายธนารัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่าต่อว่า ในส่วนอีกอันหนึ่งที่ ธ.ก.ส.ให้ความสำคัญในปี 2564 คือ Social Safety Net การทำอย่างไรให้ชุมชน สามารถที่จะมีเครือข่ายทางสังคม ทำให้ชุมชนสามารถอยู่ได้ ที่ผ่านมาเรามีหลายโครงการที่เข้าไปมีส่วนร่วมในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโครงการ 459 ทำให้ชุมชน สามารถมีผลิตผลิตผลทางการเกษตร เดินไปแค่ สี่ หรือ ห้า ก้าว ก็สามารถถึงแปลงผลิตของตนเองได้ รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทางชุมชน ในส่วนของการจัดหาการให้องค์ความรู้ ทำให้ชุมชนมีการพัฒนา และมีการต่อยอดในเรื่องของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของชุมชนที่มี homestay ชุมชนที่จัดทำในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า หรือการแปรรูปทางด้านการเกษตร
เราจะหาภาคีเครือข่ายเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อให้ชุมชนเองมีความสามารถและมีศักยภาพในการที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่ปัญหาสำคัญคือ ต้องให้ชุมชนเข้ามามีส่วนรวม แทนที่ทาง ธ.ก.ส.เข้าไปอย่างเดียว ชุมชน ภาคีเครือข่าย เป็นปัจจัยสำคัญ ในเรื่องของการพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุมชนอุดมสุข ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการในปีที่ผ่านมา และได้ผลแล้วว่า การทำให้ชุมชนเหล่านั้นมีศักยภาพ และสามารถดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นในปี 2564 เรามีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับชุมชน มีความพร้อมทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนในส่วนของ Social Safety Net ต่อไป