สามย่านมิตรทาวน์จับเทรนด์ Placemaking เนรมิตพื้นที่รีเทลยุคใหม่เป็น Inspiring Everyday Experiences

มากกว่าการช็อปปิ้ง เดินเล่น หรือพักผ่อน ไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันอยากทำมากกว่านั้น โดยเฉพาะกิจกรรมต่างๆ นอกบ้าน เพราะหลังจากการเกิดขึ้นของโควิด-19 ระลอกแรกที่ทำให้คนพบเจอกันในโลกออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ในวันนี้สถานที่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่าง สามย่านมิตรทาวน์ จึงกลายมาเป็นหนึ่งจุดหมายของคนกรุงฯ ด้วยคอนเซปต์ “Urban Life Library – คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้” ที่นี่จึงเต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายและพื้นที่คุณภาพให้ทั้งช็อป ชิม ชิล ทำงาน รวมถึงพักผ่อนสบายๆ ซึ่งในปี 2564 นี้ สามย่านมิตรทาวน์เลือกใช้กลยุทธ์ “Inspiring Everyday Experiences” สร้างแรงบันดาลใจและมอบประสบการณ์ใหม่ให้ผู้มาใช้บริการผ่านอีเวนต์ฮิตติดเทรนด์สนุกๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปี

พื้นที่ของสามย่านเดิมเป็นตลาดสามย่าน ศูนย์รวมอาหารอร่อยใจกลางเมือง เพียงแค่ในวันนี้สามย่านปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์คนเมืองเป็นสามย่านมิตรทาวน์ที่เป็นมิตรกับทุกคนมากขึ้น โดยเป็นโครงการมิกซ์ยูสบนถนนพระราม 4 เติมเต็มด้วยพื้นที่ค้าปลีก ที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงาน มีมูลค่าโครงการกว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ผู้พัฒนาอาคารเชิงพาณิชย์เกรด A ใจกลางกรุงเทพ หนึ่งในกลุ่มธุรกิจสำคัญของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกในประเทศไทย

กลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ได้พยายามปรับตัวให้กลุ่มธุรกิจรีเทลตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยเทรนด์ที่ทั่วโลกต่างนำมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่รีเทลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือ Placemaking Trend หรือ การเพิ่มพื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ในโครงการเชิงพาณิชย์ เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าและชุมชนด้วยพื้นที่ในการทำกิจกรรมที่หลากหลาย โดยได้เตรียมพื้นที่กว่า 6,000 ตร.ม. ภายในสามย่านมิตรทาวน์ มาทรานฟอร์มเป็น Placemaking Space อาทิ อุโมงค์เชื่อมมิตร ลานด้านหน้าของศูนย์ สวนลอยฟ้า และพื้นที่กิจกรรมต่างๆ รอบศูนย์ฯ

รวมถึงการให้ความสำคัญกับเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยสิ่งที่สามย่านมิตรทาวน์เจอคือเทรนด์ 5 ข้อ ได้แก่

1. Personal Health Care คนสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น

2. Series of Fad ความสนใจที่เกิดขึ้นระยะเวลาสั้นๆ เช่น การฮิตรับประทานครัวซองต์ การเล่นเซิร์ฟสเกต เป็นต้น

3. Visible Communities คอมมูนิตี้ที่เกิดจากกระแสออนไลน์

4. Tenant … New Player การเกิดขึ้นของ New Player ร้านค้าหน้าใหม่ช่วยเติมความหลากหลายให้ธุรกิจรีเทล

5. New Live + Play + Work คนต้องการพื้นที่คุณภาพสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป

คุณธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ขยายความถึงเทรนด์ 5 ข้อข้างต้นว่า “สามย่านมีมรดกทางวัฒนธรรม มีคนมาเดินใช้ชีวิตทุกวัน แต่การช็อปปิ้งอาจจะไม่ใช่ทุกวัน เทรนด์ที่สามย่านมิตรทาวน์เจอนี้เอาไปวิเคราะห์ทำการตลาด เพื่อจัดอีเวนต์ จัดโปรโมชั่นและหาผู้เช่าที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งเทรนด์ 5 ข้อนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงในเวลาไม่ช้า เพราะโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่นเดียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ดังนั้นสิ่งที่สามย่านมิตรทาวน์คาดการณ์คือ Retail Market จะกลับมาและหลังจากนี้จะมี Finding ใหม่ๆ เกิดขึ้น และอย่างไรก็เชื่อว่า Retail จะรอด เพราะคนต้องการพื้นที่เพื่อกลับเจอกันมากขึ้น จึงมั่นใจว่าจะมียอดผู้เข้าใช้บริการสามย่านมิตรทาวน์เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 นี้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้สามย่านมิตรทาวน์ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากการกลับมาระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง แม้ตัวเลขผู้ใช้บริการจะลดลงในช่วงแรก แต่ก็มีจำนวนผู้ใช้บริการกลับมาแล้วกว่า 53,000 คนหรือเทียบเท่า 84% ก่อนช่วงโควิด-19 โดยผู้ใช้บริการสองกลุ่มหลักยังเป็น คนทำงานและนักศึกษา พร้อมกันนี้ยังมีผู้เช่าระยะสั้นและระยะยาวคงอยู่อย่างหนาแน่น โดยปี 2021 มียอดร้านค้าเช่าพื้นที่กว่า 97% หรือประมาณ 240 ร้านค้า สำหรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะการดำเนินงานของสามย่านมิตรทาวน์ที่อาศัยความเข้าใจในกลุ่มลูกค้า ร้านค้า และพนักงาน ทำให้มีส่วนร่วมสนับสนุนให้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กลายเป็นผู้พัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์รวมถึงรีเทลที่น่าจับตามองลำดับต้นๆ ของประเทศไทย

ในปี 2564 ด้วยสถานการณ์โควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจ ยังนับเป็นอีกปีที่ท้าทายแม่ทัพใหญ่ของกลุ่มรีเทลอย่าง คุณธีรนันท์ ที่ต้องปรับกลยุทธ์การตลาด คุณธีรนันท์ กล่าวถึงกลยุทธ์ว่า “เราจะขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มรีเทลฯ โดยใช้กลยุทธ์ Inspiring Everyday Experiences ด้วยการเนรมิตพื้นที่รีเทลเพื่อสร้างประสบการณ์ผสานแรงบันดาลใจได้ทุกวัน และเดินหน้าสามย่านมิตรทาวน์ภายใต้คอนเซปต์คลังอาหารและการเรียนรู้ให้เป็นเดสติเนชันของทุกเจเนเรชัน”

มีวิธีการดำเนินงาน 3 ประการ ดังนี้

1. Food Hub - ระดมร้านอาหารแบรนด์แม่เหล็ก ขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกเจเนเรชั่น ทุกไลฟ์สไตล์

ตั้งแต่ ก.พ. – เม.ย. สามย่านมิตรทาวน์ทยอยเปิดร้านอาหารใหม่ทั้งสิ้น 11 ร้าน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. เกาหลีฟีเว่อร์ “K-strEAT” อาณาจักรอาหารเกาหลีแห่งแรกของประเทศไทย ชูจุดเด่นรวมทุกเมนูเกาหลีไวในเดสติเนชันเดียว ตอบโจทย์กระแสอาหารเกาหลีจากซีรีส์สุดฮิตในช่วง Work from home 2. ร้านดังจากโซเชียล ยกร้านดังร้านเด็ดจากทั่วกรุงเทพที่มีร้านน่าสนใจเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา แต่เราสามารถชวนร้านเหล่านั้นมานำเสนอใหม่ในซิกเนเจอร์ของสามย่านมิตรทาวน์ได้ทันกระแส 3. ร้านอิ่มสบายกระเป๋า ราคาเริ่มต้นเพียง 40 บาท นอกจากเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เติมเต็มพอร์ตอาหารครบครันทั้งด้านประเภทอาหาร สัญชาติอาหาร และช่วงราคา

2. Education Hub - สร้างแรงบันดาลใจ และจุดประกายความรู้ผ่านการนำเสนอที่เข้าถึงง่ายสไตล์สามย่านมิตรทาวน์

การส่งเสริมให้เกิดพื้นที่แห่งความรู้ที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ โซนสามย่านโคออป (Samyan CO-OP) ที่นอกจากเป็นโคเลิร์นนิ่งสเปซที่เปิดให้บริการฟรีสำหรับทุกคน และร้านมีเดียม แอนด์ มอร์ (Medium & More) ศูนย์รวมสินค้าอาร์ต แอนด์ คราฟ คอนเซปต์ใหม่ ที่ครบครันสำหรับผู้สนใจด้านศิลปะ นอกจากนี้ในทุกอีเวนต์เรายังพยายามสอดแทรกกิจกรรมที่เกิดการเรียนรู้ อาทิ การเพิ่มกิจกรรมสอนวิธีการใช้งาน ฝึกปฏบัติ รวมถึงเวิร์กช็อปเข้ากับอีเวนต์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นการผสานกิจกรรมที่ให้ความรู้ผ่านกิจกรรมที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าในขณะนี้ได้อย่างลงตัว

3. Community - เติมเต็มกิจกรรมให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับชุมชน ผ่านการให้บริการพื้นที่ด้วยคอนเซปต์ Placemaking

โครงการยังคงเดินหน้าให้บริการพื้นที่โดยยึดมั่นด้านคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการ และชุมชนต่างๆ เพื่อเปิดพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกค้า และผู้มาใช้บริการได้ใช้ประโยชน์ในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยให้บริการในรูปแบบพื้นที่สาธารณะ (Public Space) ที่ใครก็สามารถเข้าไปได้ มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สามารถทำกิจกรรมที่อยากทำ นอกจากการช็อปปิ้ง ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ต้องการตอบแทนคืนสังคมในรูปแบบหนึ่งที่โครงการตั้งใจ อาทิ การร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำจัดกิจกรรมที่เกิดประโยชน์กับสังคม การยกพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาได้แสดงฝีมือจัดแสดงธีสิส เป็นต้น

“สำหรับสัดส่วนของร้านค้าภายในโครงการสามย่านมิตรทาวน์หลังจากเราได้พิสูจน์แล้วว่าร้านอาหารเป็นสินค้าหลักที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ในปีนี้เราได้เสริมทัพร้านอาหารขึ้นอีกจำนวนมาก เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็นคลังอาหารและการเรียนรู้ ได้แก่

The Eating Library พื้นที่สร้างประสบการณ์ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการรับประทานอาหาร นอกเหนือจากการรับประทานธรรมดาทั่วไป โดยคัดสรรอาหารที่หลากหลายตามความต้องการ

The Learning Library พื้นที่สำหรับเปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้ และการเรียนเสริมทักษะที่จะเติมเต็มจินตนาการสานให้ครบทุกด้านของชีวิต

The Living Library พื้นที่รวบรวมสิ่งจำเป็นต่อไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนเมือง” คุณธีรนันท์ อธิบายเพิ่มเติม

สำหรับเทศกาลสงกรานต์เทศกาลแห่งความสุขที่ใกล้จะถึงนี้ สามย่านมิตรทาวน์ได้เนรมิตอุโมงค์อวกาศให้เป็นโลกใต้ท้องทะเลสุดอลังการใจกลางเมืองกับกิจกรรม Samyan Mitrtown - Endless summer “หน้าร้อนสุดฟิน เช็กอินความสุข สนุกทุกองศา” ชวนทุกคนมาถ่ายภาพและวิดีโออัปโซเชียลกับฝูงปลาเล็กใหญ่ที่แหวกว่ายราวกับอยู่ในอะควาเรี่ยม ด้วยเทคนิคการฉายภาพเสมือนจริงของโลกใต้น้ำ เปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. พร้อมกิจกรรมรับหน้าร้อนจากแรงบันดาลใจของทะเลสีคราม เกลียวคลื่น และไอแดด พบกิจกรรมริมหาด ร้านค้า และความสนุกมากมายระหว่างวันที่ 22 มี.ค. - 30 เม.ย. และชวนมาสนุกแบบชื่นฉ่ำที่ Water Zone ครั้งแรกกับการเล่นน้ำสงกรานต์กลางสามย่าน ระหว่าง 8-15 เม.ย. นี้

เตรียมเก็บลิสต์เช็กอินความคูลที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดหน้าร้อน ณ ศูนย์การค้าสามย่ามมิตรทาวน์ เปิดให้บริการ 10.00 – 22.00 น. โซน 24 ชั่วโมงเปิดให้บริการปกติ โดยนั่งรับประทานในร้านได้ระหว่าง 06.00 – 23.00 น. ทั้งนี้ทุกกิจกรรมสามย่านมิตรทาวน์ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด