นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ โดยให้เรียกเก็บที่ติดลบ 15.32 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วย ซึ่ง กกพ.ได้ใช้เงิน 2,610 ล้านบาทในการตรึงค่าเอฟทีในงวดนี้ และยังคงมีเงินบริหารเก็บไว้จำนวน 4,129 ล้านบาท ขณะที่ในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ ก็มีแนวโน้มว่าค่าเอฟทีจะอยู่ที่ระดับติดลบ 7.95 สต.ต่อหน่วย
ทั้งนี้ กกพ.มองว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 54.8 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 60 เหรียญสหรัฐฯในเดือน มี.ค.นี้ และการอ่อนตัวลงของค่าเงินบาทจาก 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯเมื่อเดือน ก.พ. มาเป็น 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯในเดือน มี.ค. จึงอาจส่งผลต่อค่าเอฟทีในช่วงปลายปีนี้มีความผันผวน อีกทั้งความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากโควิด-19 คลี่คลายในครึ่งปีหลัง จะส่งผลต่อการเพิ่มความต้องการใช้เชื้อเพลิงในตลาดโลกอย่างรุนแรง จึงใช้หลักการประเมินค่าเอฟทีตลอดทั้งปีเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะมีศักยภาพในการรักษาเสถียรภาพค่าเอฟทีตลอดทั้งปีนี้.