คลัง ขอชี้แจงประเด็นข้อวิจารณ์โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" พร้อมแจ้งประชาชนที่จองโรงแรมตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 แล้วต้องการเลื่อนการเข้าพัก สามารถประสานโรงแรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
วันที่ 4 ม.ค. 2564 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ขอชี้แจงประเด็นข้อวิจารณ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันว่า ตั้งแต่โครงการฯ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2563 และเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 มาจนถึงปัจจุบันมีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 7.3 ล้านคน ผู้ประกอบการโรงแรมที่พักลงทะเบียนทั้งสิ้น 8,514 แห่ง ร้านอาหาร 67,527 แห่ง สถานที่ท่องเที่ยว 2,098 แห่ง ร้าน OTOP 1,383 แห่ง และสปาหรือร้านนวดเพื่อสุขภาพ และบริการขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว 204 แห่ง
ขณะที่ข้อมูล ณ วันที่ 1 ม.ค. 2564 มีการใช้สิทธิจองห้องพักผ่านโครงการฯ แล้วทั้งสิ้น 5,106,470 สิทธิ (จากทั้งหมด 6 ล้านสิทธิ) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,634 ล้านบาท โดยเป็นการจองผ่านโรงแรมทั้งหมด 5,274 แห่ง รวมถึงมีการใช้จ่ายผ่าน E-Voucher ประมาณ 5,711.6 ล้านบาท และมูลค่าบัตรโดยสารเครื่องบินประมาณ 1,001.87 ล้านบาท โดยรวมแล้วมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการฯ แล้วไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
สำหรับประเด็นการเปลี่ยนแปลงการจองห้องพัก ปัจจุบันกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขยายระยะเวลาโครงการฯ ออกไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2564 รวมทั้งกำหนดระบบการเลื่อนวันเข้าพักสำหรับประชาชนที่ได้จองโรงแรมที่พักเพื่อเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการปรับปรุงระบบให้สอดรับกับการดำเนินการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยเร็วต่อไป
ในระหว่างนี้ ประชาชนที่ได้จองโรงแรมที่พักเพื่อเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 ที่มีความประสงค์จะเลื่อนการเข้าพักสามารถประสานโรงแรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยโรงแรมสามารถรับเรื่องไว้ได้ก่อน และขอให้โรงแรมดำเนินการแจ้งการเลื่อนในระบบต่อไป.