บล.เอเซียพลัส แนะกลยุทธ์การลงทุนช่วงก่อนหยุดยาวเดือน ธ.ค. เลือกหุ้น SCC, STA และ VGI โดยระบุว่า เริ่มเข้าสู่ช่วงหยุดยาวเดือน ธ.ค.63 ซึ่งปกติแล้วเดือนนี้ ปริมาณการซื้อขายมักจะเบาบางกว่าปกติ (ต่ำสุดของปี) โดยเฉพาะช่วงหลังวันคริสต์มาส (เฉลี่ยซื้อขายเพียง 2.6 หมื่นล้านบาท/วัน จากปกติสูงราว 5 หมื่นล้านบาท) จึงทำให้ระยะสั้นคาด Fund flow อาจมีแรงซื้อชะลอๆลงบ้าง
ดังนั้นกลยุทธ์เน้นหุ้นใหญ่ราคา Laggard อย่าง SCC และหุ้นใหญ่ที่ได้ปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่าง STA และ VGI เป็น Toppicks
โดยมีปัจจัยพื้นฐานหนุนดังนี้ หุ้น SCC ทิศทางธุรกิจระยะ 3-5 ปีข้างหน้ามองเห็นการเติบโตชัดเจน โดยธุรกิจปิโตรเคมีจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 70% จากปัจจุบัน หลังโรงงาน LSP ในเวียดนามเปิดดำเนินการปี 2566 ส่วนธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจะเป็น Cash Cow สร้างกระแสเงินสดให้กับกลุ่มและใช้กลยุทธ์ Solutions & Solutions เพื่อเพิ่มอัตรากำไร
ขณะที่ธุรกิจ Packaging หลังเข้าระดมทุน IPO ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน และมีศักยภาพที่จะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 1 เท่าตัว ภายในปี 2568 เป้าหมายทางพื้นฐานปี 64 อยู่ที่ 430 บาท เทียบเท่า PER 12 เท่า บวกกับ Dividend Yield อีก 3.5%
หุ้น STA ภาพรวมธุรกิจหลักของ STA ยังเดินหน้าเติบโตต่อเนื่องในปี 2564 นำโดยธุรกิจถุงมือยางเติบโตโดดเด่น จากทั้งการปรับเพิ่มราคาขายถุงมือยางและแนวโน้มปริมาณขายเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจยางพาราจะฟื้นตัวเช่นกันจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หนุนคำสั่งซื้อยางพาราเพิ่มขึ้น บวกกับน้ำท่วมภาคใต้ หนุนราคายางปรับสูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิปี 2563 จะอยู่ที่ 8.5 พันล้านบาทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และเติบโตอีก 79.0% yoy ในปี 2564 โดยประเมิน FV ปี 2564 เท่ากับ 50 บาท มี Upside สูงเกือบ 100%
อีกตัวหุ้น VGI (FV @ 8.50) ภาพการฟื้นตัวที่เริ่มชัดเจนของสื่อนอกบ้านในประเทศ ดังนั้นเชื่อว่าโมเมนตัมของกำไรใน 3Q63/64 เป็นต้นไปจะดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ไฮซีซันและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงประเด็นการ IPO ของ KEX ที่คาดซื้อขายในช่วงปลาย ธ.ค.63-ต้นปี 64 นี้ คาดสร้าง Sentiment เชิงบวกทางพื้นฐานอย่างมีนัย
ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 1,216 ล้านบาท (ฟื้นตัวกลับมาอยู่ระดับใกล้เคียงกับปี 2562) ประเมินมูลค่าทางพื้นฐานที่ 8.50 บาท!!
อินเด็กซ์ 51