นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่มแบบเคลื่อนที่ (ฟู้ดทรัค) กำลังเป็นที่นิยมของนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของประเทศเริ่มเข้าสู่ตลาด ขยายสาขาและขยายธุรกิจแฟรนไชส์ในรูปของ “ฟู้ดทรัค” มากขึ้น เพราะมีองค์ประกอบการดำเนินธุรกิจที่คล่องตัว เคลื่อนที่ไปหากลุ่มลูกค้าได้ทุกที่ ในลักษณะการตลาดเชิงรุกที่กระตุ้นยอดขายได้เพิ่มขึ้น และไม่ต้องจัดหาสถานที่ตั้งร้านที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง โดยเฉพาะการระบาดของโควิด-19 ที่ประชาชนต้องระมัดระวังทั้งการเดินทาง การสัมผัสสิ่งของและสุขอนามัย ทำให้ฟู้ดทรัคขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวง่ายต่อการจดจำของผู้บริโภค เป็นการยกระดับจากร้านอาหารแผงลอยสู่ร้านเคลื่อนที่ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ทำให้ฟู้ดทรัคกลายเป็นธุรกิจดาวรุ่ง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดทรัคทั่วประเทศ 2,500 คัน และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2,600 ล้านบาทต่อปี
“จากสถิติของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่าช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปี 63 มีการจัดตั้งธุรกิจบริการด้านอาหารเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 100% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 62 โดยมีทุนจดทะเบียนสูงถึง 10.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 236.67% แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ต่างชาติที่เข้ามาเปิดบริการฟู้ดทรัค มีมูลค่าการลงทุนรวม 55.91 ล้านบาท สัญชาติที่ลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี”.