ครม.อนุมัติเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมเฟส 2 วงเงิน 152,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดจ้างงาน และฟื้นกิจกรรมเศรษฐกิจสาขาต่างๆ โดยเฉพาะท่องเที่ยวที่ซมพิษโควิด-19 คาดดันจีดีพี ปี 63 โตได้ 0.2% และปี 64 อีก 0.25% ข่าวดี! แฟนคลับ “คนละครึ่ง” รัฐกันเงินแล้ว 30,000 ล้านบาท เดินหน้าต่อเฟส 2
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 พ.ย.63 เห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ ที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เป็นประธาน เสนอการดำเนินแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนงาน หรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนดกู้เงินรอบ 2 วงเงิน 152,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง และฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสาขาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รุนแรง เช่น ท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสุดท้ายของปี 63 ไม่หดตัวมากกว่าที่คาด และสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 64 ซึ่งเบื้องต้น คาดว่า ปี 63 จะช่วยให้จีดีพีเพิ่มขึ้นจากกรณีฐาน หรือกรณีไม่มีเงินกู้ราว 0.2% และ 0.25% ในปี 64
“ภายใต้วงเงิน 152,000 ล้านบาท จะต่อเนื่องจากรอบที่ 1 ที่ได้อนุมัติไปแล้ว 92,400 ล้านบาท โดยรอบ 2 ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการจ้างงานและพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและวางรากฐานการพัฒนาในระยะต่อไป เช่น โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ 19,462 ล้านบาท 2.โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่น เช่น โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก 45,000 ล้านบาท 3.โครงการส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคเพื่อฟื้นฟูตลาดและเศรษฐกิจทุกระดับ เช่น โครงการ
คนละครึ่ง 30,000 ล้านบาท และ 4.โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจ เป็นต้น”
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบ 3 โครงการภายใต้เงินกู้ก้อนนี้รวม 112 ล้านบาท คือ โครงการโอทอปไทย สู้ภัยโควิด -19 วงเงิน 95 ล้านบาท โครงการพลิกวิกฤติโควิด-19 สู่การสร้างเศรษฐกิจจากโอทอปสมุนไพรในชุมชนอย่างยั่งยืน 8 ล้านบาท และโครงการสร้างงาน สร้างอาชีพ ด้วยการนวดไทยในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วงเงิน 9 ล้านบาท ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การใช้เงินกู้เฟสแรก 92,400 ล้านบาทนั้น จนถึงขณะนี้ ครม.อนุมัติโครงการไปแล้ว 86,068 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายเพียง 4,357 ล้านบาท หรือ 6.19% ของกรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติ
ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้นเดือน ธ.ค.นี้ จะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เกี่ยวกับแพ็กเกจคนละครึ่งระยะ (เฟส) 2 ก่อนเสนอ ครม. ส่วนจะขยายให้มากกว่า 10 ล้านสิทธิ์ หรือเพิ่มวงเงินให้มากกว่า 3,000 บาทหรือไม่ อยู่ระหว่างพิจารณา โดยจะใช้งบจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท “คนที่เข้าร่วมคนละครึ่งเฟสแรก จะได้รับสิทธิ์เฟส 2 โดยอัตโนมัติ และจะได้รับวงเงินเพิ่มเติม และอาจขยายเวลาการใช้จ่ายเฟส 2 ยาวไปจนถึงตรุษจีนในเดือน ก.พ.64 ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่รัฐบาลช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 3 เดือน (ต.ค.-ธ.ค.) 500 บาท คาดว่าจะได้รับเงินเพิ่มเติมเช่นกัน และกำลังพิจารณาเรื่องการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการรอบใหม่ในปีหน้า”.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง