นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยววันหยุดยาว วันที่ 19-22 พ.ย. คาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 3.02 ล้านคน/ครั้ง ใกล้เคียงกับช่วงวันหยุดชดเชยเนื่องในวันสงกรานต์ที่ผ่านมา (4-7 ก.ย.) มีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียน 12,600 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 37% แม้ว่าวันหยุดรอบนี้ เป็นฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซัน แต่ข่าวพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศเริ่มมีมากขึ้น กลับเป็นปัจจัยลบ ทำให้นักท่องเที่ยววิตกกังวล มีการยกเลิกห้องพักหรือเปลี่ยนแผน ชะลอการเดินทางในพื้นที่ที่พบการติดเชื้อ เช่น กระบี่ ผนวกกับภาคเอกชนในหลายองค์กรที่เป็นกลุ่มตลาดขนาดใหญ่มีกำลังซื้อสูงยังคงทำงานตามปกติไม่ได้ประกาศให้เป็นวันหยุด
ขณะที่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางช่วงวันหยุด ค่อนข้างมีน้อย ขณะที่อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้ามีวันหยุดยาวอีกเช่นกัน คาดว่านักท่องเที่ยวบางกลุ่ม อาจชะลอการเดินทางในวันหยุดนี้ ภายใต้เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ลดลงและกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวมีจำกัด แนวโน้มการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดนี้อาจจะต่ำกว่าสถานการณ์ปกติ
“ปัจจัยที่ส่งเสริมในวันหยุดรอบนี้คืออากาศที่เริ่มหนาวเย็นเหมาะแก่การท่องเที่ยว ในภาคเหนือ ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ภาคอีสานตอนบน โดยแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในวันหยุดนี้ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เมืองหลัก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ กาญจนบุรี นครราชสีมา ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ ขอนแก่น เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา ขณะที่พื้นที่เมืองรอง อาทิ นครศรีธรรมราช ยังได้รับความนิยมจากกระแสไอ้ไข่วัดเจดีย์ ทำให้ประชาชนทั่วประเทศหลั่งไหลเข้าพื้นที่จำนวนมาก”
นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมมือกับ ททท. จัดทำโครงการ SCB IEP Bootcamp : The Hospitality Survival เพื่อพัฒนาหลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล เพื่อช่วยผู้ประกอบการพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจที่สามารถดึงดูดลูกค้าคนไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและพักในกรุงเทพฯ.