นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมมีที่ดินราชพัสดุที่ได้มาจากการยึดทรัพย์จากผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกว่า 700 รายการ และมีหลายประเภท จึงได้มีแนวทางในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ได้มา ผ่านการเปิดประมูลขาย โดยในเฟสแรกจะนำมาเปิดประมูล 250 แปลง ซึ่งมีพื้นที่เด่นๆ เช่น ในกรุงเทพฯมีแถวสาทร เป็นต้น คาดว่าจะส่งผลให้กรมจัดเก็บรายได้เพิ่ม 300-400 ล้านบาท
สำหรับการเปิดประมูลขายที่ราชพัสดุดังกล่าว กรมร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการพัฒนาระบบเปิดประมูลทรัพย์ออนไลน์ จะเริ่มเปิดประมูลได้ช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเปิดประมูลตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีระยะเวลาในการเปิดประมูล 15 วัน ซึ่งจะเปิดเสรีให้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถเข้าร่วมประมูลได้ โดยต้องสมัครสมาชิกและวางเงินประกัน 10,000 บาท ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้ ถือเป็นการลดภาระในการดูแลรักษาทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายด้วย เพราะในแต่ละปีมีทรัพย์สินเข้ามาให้กรมดูแลกว่า 1,000 แปลง
“ยืนยันว่าที่ราชพัสดุที่กรมนำมาเปิดประมูลมีการประเมินราคากลาง และกรมมีการดูแลเรื่องปัญหาเจ้าของที่เดิม ที่ยังอาศัยอยู่ในที่ราชพัสดุที่ถูกยึด ซึ่งจะไม่ให้กระทบกับผู้ที่ประมูลได้แล้วต้องไปดำเนินการฟ้องไล่ที่เองแน่นอน กรมจะเคลียร์ให้แล้วเสร็จ โดยขณะนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ และส่งสัญญาณเตือนแล้ว”
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารมีความพร้อมในการพัฒนาเว็บไซต์ Treasury e-Auction ร่วมกับกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นระบบประมูลทรัพย์ออนไลน์ มีการออกแบบเว็บไซต์รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์หลายชนิด ให้ประชาชนร่วมประมูลได้แบบเรียลไทม์ พร้อมเปิดให้บริการเดือน ธ.ค.63 “บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถสมัครสมาชิกประมูลทรัพย์ออนไลน์ โดยใช้ที่อยู่ตามบัตรประชาชนหรือที่ติดต่อได้สำหรับออกใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียม แจ้งอีเมลและเบอร์ติดต่อ พร้อมวางเงินประกัน 10,000 บาท ผ่านระบบ e-Payment ของธนาคารที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน อาทิ การหักบัญชีธนาคารกรุงไทยแบบ Page2page ซึ่งเป็นระบบที่ชำระเงินผ่านเว็บไซต์ได้ทันที”.